“ศิโรตม์” นักข่าววอยซ์ทีวี กัดไม่ปล่อย โจมตี “หมอทวีศิลป์” สร้างความสับสนโหลดแอพหมอชนะ ลั่นศบค.ต้องเปลี่ยนคนแถลง

5390

จากกรณีที่นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ได้แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 7 ม.ค. 2564 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่วันนี้ เพิ่มอีก 305 ราย ในประเทศ 193 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติ 109 ราย สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 3 ราย ได้แก่ รัสเซีย ตุรกี เมียนมา อย่างละ 1 ราย

โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 9,636 ราย
หายป่วยแล้ว 4,521 ราย

เสียชีวิตสะสม 67 ราย (เพิ่มขึ้น 1 ราย) ทั้งนี้ข้อมูลผู้เสียชีวิตเบื้องต้น เป็นเพศชาย อายุ 88 ปี ที่ติดเชื้อมาจากลูกชาย ที่เดินทางกลับจากการเล่นพนันที่บ่อน จังหวัดระยอง

โดยการแถลงในวันนี้ได้เน้นใจความสำคัญเรื่องที่นายกฯ ได้ลงนามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 17 เมื่อวันที่ (6 ม.ค.) ซึ่งจะมีการยกระดับบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และปราบปราม ลงโทษผู้กระทำความผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค ทั้งนี้การยกระดับบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ซึ่งต้องรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจอุณหภูมิร่างกาย

ติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่กำหนด ตลอดจนยอมรับการกักกันตนเอง ตามระยะเวลาและในสถานที่ที่กำหนด หากอยู่ในข่ายที่ต้องรับการกักกัน ประชาชนจะต้องติดตั้งและใช้ระบบแอปพลิเคชั่น หมอชนะ ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ หากตรวจสอบแล้ว ไม่พบแอปพลิเคชั่น จะถือว่ามีความผิดด้วย ถ้าป่วยแล้วมีไทยชนะถือว่าไม่มีความผิด แต่ถ้าไม่มีถือว่ามีความผิดตามพรก.ฉุกเฉิน

จนทำให้ในโลกออนไลน์มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก ว่าทุกคนไม่สามารถจะติดตั้งแอพหมอชนะได้ เนื่องจากความสะดวกในการใช้มือถือ บางคนยังใช้รุ่นเก่า ไม่ใช่แบบสมาร์ทโฟน แต่ต่อมาทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงกรณีการให้ประชาชนติดตั้งแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” ในโทรศัพท์มือถือว่า

เรียนพี่น้องประชาชน 5 จังหวัด สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

กรณีที่ โฆษกศบค. ได้แถลงว่า ให้ผู้ป่วยโควิด โหลดแอพ หมอชนะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจ หากไม่โหลด มีความผิดตามพรก.ฉุกเฉินนั้น

ผมได้นำเรียนท่านนายกรัฐมนตรีแล้วว่า จะเป็นการทำให้ประชาชนมีปัญหามากขึ้น เนื่องจากประชาชนบางส่วนไม่มีโทรศัพท์ หรือ มีโทรศัพท์ที่ไม่สามารถโหลดแอพหมอชนะได้ จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ 5 จังหวัด ทั้งผู้ป่วย และไม่ป่วย รวมถึงญาติผู้ป่วยทราบว่า การไม่โหลดแอปฯ หมอชนะ ไม่มีความผิดแต่อย่างใด

คำสั่งดังกล่าวมีเจตนาจะดำเนินคดีกับผู้ปกปิดข้อมูล ในการสอบสวนโรคเท่านั้น

ขอความกรุณาแจ้งต่อ ๆ ไปด้วย ขอบคุณครับ ไม่โหลดไม่ผิด

อีกทั้งนพ.ทวีศิลป์ ยังได้ชี้แจงในระหว่างการประชุมระหว่าง ศบค. กับสื่อมวลชนเพิ่มเติมด้วยว่า กรณีมีข่าวว่าหากไม่โหลดแอพพลิเคชั่นหมอชนะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดแล้วจะติดคุกนั้น ยืนยันว่าไม่ขนาดนั้น เพราะเจตนาที่แท้จริงเป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ใช้แอพหมอชนะในการเพื่อคุมระบาด “ส่วนกรณีที่ประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟนไม่สามารถใช้แอพหมอชนะได้ ก็ใช้แอพฯไทยชนะ หรือการจดด้วยมือแทนได้”

ล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ทางด้านนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ประกาศข่าวช่องวอยซ์ ทีวี ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “คุณทวีศิลป์แถลงสร้างความสับสนตั้งแต่ “ภาระ ภาษี” และ “ไม่โหลดแอพมีความผิด” หลายครั้งถูกสังคมวิจารณ์จนลุกลามเป็นประเด็นการเมืองระหว่างประชาชน-ฝ่ายค้าน-รัฐบาล ผมว่าตอนนี้ให้กระทรวงสาธารณสุขแถลงดีกว่าครับ เพราะกระทรวงแถลงแล้วไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้เลย

คุณทวีศิลป์มีปัญหาในการแถลงตั้งแต่โควิดระบาดรอบแรก เรื่องพูดเรื่องอื่นมากไป ท่าทีหลายครั้งมีลักษณะอำนาจนิยม คุณทวีศิลป์จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่คนที่มองแบบนี้มีตั้งแต่รอบที่แล้ว พอถูกใครวิจารณ์ทีก็ไปปั่นให้เป็นประเด็นการเมืองตอบโต้คนวิจารณ์ที

ถ้าศบค.ไม่ปรับก็น่าห่วงว่า ตำแหน่งที่ควรมีหน้าที่สร้างความเข้าใจและ “รวมไทยสร้างชาติ” จะเป็นตำแหน่งที่ทำให้คนไม่อยากร่วมมือกับรัฐบาล

ย้ำอีกครั้งครับว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่เคยแถลงอะไรแล้วถูกสังคมวิจารณ์ เอาคนที่ยังมีภาพกระทรวงชัด ๆ มาทำหน้าที่แถลง ดีกว่าจะเอาคนที่มีภาพการเมืองแรงขึ้นทุกวัน
งานสาธารณสุขควรให้คนที่เป็นหมอแถลง ไม่ใช่จิตแพทย์ และงานนโยบายควรแถลงโดยคนของรัฐบาล นั่นก็คือโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี

กองเชียร์รัฐบาลไม่ต้องดราม่านะครับ ผมติดเพื่อก่อ อยากเห็นการทำงานของ ศบค.ราบรื่น ไม่ใช่มีปัญหาจุกจิกจากการช่างจ้อจนเกิดประเด็นการเมืองเพราะคนแถลงจ้อเกินงาม”


อย่างไรก็ตามพบว่าก่อนหน้านี้ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ก็เคยโพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ระบุด้วยว่า “หมอทวีศิลป์ ไม่ต้องเอาเวลาหลวงแถลงผลงานประยุทธ์ หรือให้โอวาทครับ นั่นงานโฆษกรัฐบาล คุณยังไม่ได้เป็น”

ที่มาเฟซบุ๊ก : Sirote Klampaiboon (ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์)