จากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขบวนการบ่อนการพนันอันเป็นต้นตอแพร่เชื้อโควิดรอบใหม่นี้นั้น
โดยทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ที่มีนักพนันเข้าไปเล่นในบ่อนและนำเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่กระจาย ถือว่าเป็นความผิดพลาดของพื้นที่ ที่ต้องรับผิดชอบ พร้อมสั่งปูพรมตรวจสอบบ่อนทั่วประเทศ ว่าพื้นที่ใดยังมีบ่อนอยู่อีก หากยังพบว่ามีต้องดำเนินมาตรการทางวินัยและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้ขยายผลสืบสวนทั้งกลไกของผู้ลักลอบเล่นพนัน นายทุนที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า องค์กรทุกองค์กรมีทั้งคนดี และคนไม่ดี คนที่ตั้งใจทำก็ช่วยประคับประคององค์กรได้พอประมาณ แต่คนที่ทำให้องค์กรและประเทศชาติเสียหาย ซึ่งตนถือว่าเป็นส่วนน้อย แต่ตอนนี้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับสังคมภาพรวม เพราะเป็นเรื่องโรคระบาด เป็นเรื่องที่พวกเราเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่คนในองค์กรบางส่วนกระทำโดยโลภเห็นประโยชน์ส่วนตัว
อย่างไรก็ตามตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิดจากบ่อนการพนันในจังหวัดระยอง ทำให้มีการติดตามการลักลอบตั้งบ่อนในจังหวัดอื่นๆ จนนำไปสู่การเด้งผู้การจังหวัดต่าง ๆ กว่า 5 จังหวัด ดังนี้
28 ธันวาคม 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยกรณีบ่อนในจ.ระยอง ได้เซ็นคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม
29 ธันวาคม 2563 หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าทลายบ่อนซอยแจ้งวัฒนะ 14 พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง จับกุมนักพนัน ทางพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.จึงได้มีคำสั่งย้ายตำรวจให้ขาดจากต้นสังกัดเดิม จำนวน 6 นาย ดังนี้
พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2
พ.ต.อ.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ผกก.สน.ทุ่งสองห้องซึ่งพึ่งรับตำแหน่งได้ไม่นานก็โดนเด้งด้วย
พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง
พ.ต.ท.ธนิศร บุญแม้น รอง ผกก.ป.สน.ทุ่งสองห้อง
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์. ร้องเกาะเกิด สว.สส สน.ทุ่งสองห้อง
พ.ต.ต.กิตติพศ อินทร์จันทร์ สวป.สน.ทุ่งสองห้อง
31 ธันวาคม 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม
4 มกราคม 2564 พล.ต.ท.วีระ จีรวีระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี มาปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 2 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม
5 มกราคม 2564 พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผบช.ภ.2 ลงนามให้ พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ผบก.ภ.จว.ตราด ไปปฏิบัติราชการที่ศปภ.ภ.2 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม
5 มกราคม 2564 ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงกรณีมีการเปิดบ่อนการพนันในหลายพื้นที่จนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจไม่ดีพอเท่าที่ประชาชนคาดหวังก็น้อมรับ และจะพยายามปฏิบัติให้ดีกว่าเดิม ตอนนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานจเรตำรวจ และจากส่วนกลางที่ไม่เปิดเผยลงไปตรวจสอบเรื่องการกำกับดูแล หรือการปฏิบัติงานเกี่ยวกับอบายมุขทุกประเภทว่าพื้นที่ได้ดำเนินการไปตามนโยบายหรือไม่ ถ้าพบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องคงไม่ใช่แค่ย้ายพ้นพื้นที่ พอเรื่องเงียบแล้วก็กลับ ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน
“เรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับแล้วว่าเอาจริง ใครผิดหรือว่ามีส่วนไม่ว่าประมาทเลินเล่อ หรือเจตนาจงใจที่จะทำอย่างนั้นก็ต้องรับโทษทั้งทางวินัยและอาญา ขณะเดียวกันก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ใครที่ตั้งใจทำดี ขอให้รักษาไว้ ในภาระงานที่ประชาชนคาดหวังไว้ โดยเฉพาะช่วงที่ประชาชนยากลำบากต้องไม่ซ้ำเติม อย่าให้เกิดอะไรที่แย่กว่านี้ เพราะแค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว เพราะถูกตั้งคำถามทุกวัน” ผบ.ตร.กล่าว
29 ธันวาคม 2563 ย้อนไปช่วงปลายปีในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวว่า ต้องไล่เรียงกันให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ส่วนไหนรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ ผู้กำกับ ผู้การ ขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงขั้นถ้าสุดท้ายจะต้องย้ายผบ.ตร.ก็ต้องทำ
28 สิงหาคม 2563 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ มีมติแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร. คนที่ 12 ต่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่จะเกษียณอายุราชการ
สำหรับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ หรือ บิ๊กปั๊ด เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 (ตท.20) รุ่นเดียวกับ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 (นรต.36) รุ่นเดียวกับ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา
นั่นคือเรื่องราวและประวัติย่อๆของ ผบ.ตร.และการสั่งย้ายนายตำรวจระดับสูงที่เกิดขึ้นแค่เพียงไม่กี่วัน ก็เรียกได้ว่า โดนกันกราวรูด และเมื่อฟังท่าทีของนายกรัฐมนตรี ที่แบ่งรับแบ่งสู้หากจะต้องย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องทำ!?! ถามว่า นายกฯบิ๊กตู่จะทำจริงหรือ??? ฟันธงไปเลยว่าไม่มีทาง และไม่ใช่เหตุผลเพราะ เพื่อนเตรียมทหารกับบิ๊กแดง หรือ เป็นเพื่อนเตรียมตำรวจกับบิ๊กแป๊ะ หากแต่ย้ายไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่เพราะบิ๊กปั๊ดเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง แต่เพราะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่เรื้อรังนี้ ทางเดียวที่จะแก้ได้ ส่วนจะทำได้หรือไม่ ลองถามใจลุงตู่ดู ว่ากล้าแค่ไหนที่จะปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง!!! นั่นแหละวันนั้นจะเอาเพื่อนใครมาเป็นผบ.ตร.ก็โนพลอมแพลม!!!