สหรัฐส่อเค้ามิคสัญญี?!? ติดโควิดป่วยทะลุ 20 ล้านราย เสียชีวิตนาทีละ 2 คน ขณะทรัมป์เปิดศึกขวางไบเดนในสภา-ลงถนน

2373

สหรัฐอเมริกาน่าจะเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุด เมื่อค้นพบและประกาศใช้วัคซีนต้านโควิด-19ของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ก่อนใครในโลก แต่กลับเป็นศูนย์กลางระบาดใหญ่ของโลก เสียชีวิตไม่หยุดนาทีละ 2 คน ป่วยไม่ยั้งทะลุกว่า 20 ล้านราย ทำระบบสาธารณสุขที่ไม่ได้เตรียมวางรากฐานไว้พังทลาย เพราะขาดแคลนไปหมดทั้งแพทย์ พยาบาล ขาดสถานที่รองรับคนป่วย ขาดสถานที่ปลอดภัยพอที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนและแม้แต่ถังออกซิเจนก็มีแนวโน้มขาดแคลนแล้ว สภาพรถพยาบาลวิ่งวุ่นรอบเมือง แต่อำนาจรัฐทั้งผู้นำปธน.ทรัมป์และพวก ยังไม่หยุดป่วน ทรัมป์ส่งสัญญาณดิ้นเฮือกสุดท้ายระงับการรับรองไบเดนและระดมสาวกลงถนน เหล่านี้คือเค้าลางหายนะมาเยือนอย่างแท้จริง สำหรับประเทศต้นแบบประชาธิปไตยไร้จิตสำนึก ที่กลุ่มชังชาติยกย่องบูชา

โควิด-19ระบาดหนัก สหรัฐป่วยจริง-ตายจริง

สำนักข่าวซินหัวไทยรายงานเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2564ว่า สถาบันวัดผลและประเมินสุขภาพ (IHME) แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวม 567,195 ราย ภายในวันที่ 1 เม.ย. 2021

ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของสหรัฐฯ ทะลุ 350,000 รายแล้ว เมื่อนับถึงช่วงเย็นวันเสาร์ (2 ม.ค.) ศูนย์ฯ ระบุว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของสหรัฐฯ ทะลุ 20.4 ล้านราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 350,186 ราย เมื่อนับถึงเวลา 13.30 น. ของวันอาทิตย์ (3 ม.ค.) ตามเวลาประเทศไทย

รัฐนิวยอร์กรายงานการตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวม 38,273 ราย สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ตามมาด้วยรัฐเท็กซัสที่มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 28,338 ราย รัฐแคลิฟอร์เนีย 26,542 ราย และรัฐฟลอริดา 21,890 ราย ขณะที่รัฐอื่นๆ ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 ราย ได้แก่ นิวเจอร์ซีย์ อิลลินอยส์ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน แมสซาชูเซตส์ และจอร์เจีย

สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาดใหญ่ โดยมีจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก ซึ่งครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 24 ของยอดผู้ป่วยทั่วโลก และมากกว่าร้อยละ 19 ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก

ปชช.คลั้่งเสรีต้านสวมหน้ากาก-ล็อคดาวน์เพราะอะไร?

ที่ลอสแองเจลิสม็อบต่อต้านการใส่หน้ากาก เชื่อว่าหน้ากากไม่ช่วยอะไร ต่างไปรวมตัวกันที่ร้านของชำในเมืองประมาณ 50 คน  ทั้งๆที่ขณะนี้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและถังออกซิเจนเหลือน้อยลง รถพยาบาลวิ่งวุ่นกันทั้งวัน พวกเขายังเชื่อว่ารัฐลึกสร้างสถานการณ์เกินจริง เพื่อบังคับประชาชนให้ฉีดวัคซิน ตามนโยบายควบคุมประชากร กล่าวคือพวกเขาไม่ไว้วางใจใน วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและโมเดอร์นา บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ

สื่อเดอะเดลีบีสต์ของสหรัฐมองว่า การต่อต้านเหล่านี้เป็นอาการทางจิตที่เกิดจากการครอบงำทางความคิดในหมู่สาวกของปธน.ทรัมป์ ทั้งที่ที่คนอเมริกันในลอสแองเจลิสเสียชีวิตทุกๆ 2 ชั่วโมง และรถพยาบาลวิ่งวุ่นทั่วเมืองทั้งวัน และถังออกซิเจนเริ่มขาดแคลน พวกเขายังคงเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐลึก “หน้ากากไม่ช่วยอะไร” “มันเป็นทฤษฎีสมคมคิดของรัฐลึก” ผู้ประท้วงสวมหมวก “สร้างอเมริกายิ่งใหญ่” ตะโกนว่า “เดินขบวนาเพื่อเสรีภาพของชาวเบเวอร์ลีฮิลล์”

รัฐแคลิฟอร์เนียมีมาตรการสวมหน้ากาก และห้าง เออร์วอน มีข้อเรียกร้องให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากก่อนเข้าร้าน หญิงหมวกแดงยืนยัน “ตัวของฉัน ฉันเลือกเอง”ลูกค้าหลายคนยืนยันสวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน บางคนให้เหตุผลว่า แม้เราแข็งแรงเราก็อาจเป็นตัวแพร่เชื้อให้คนอื่น สวมหน้ากากช่วยให้ตัวเองปลอดภัยและผู้อื่นปลอดภัย 

ที่หน้าร้านค้า กลุ่มต้านสวมหน้ากากใช้โทรโข่งโฆษณา “พระเจ้าให้ชีวิตคุณ จงเชื่อในพระองค์ พวกมันต้องการควบคุม พวกอีลิทโลก มันถึงเวลาที่จะต้องขับไล่พวกมันออกจากอเมริกาแล้ว” บางส่วนชูป้ายพร้อมถ่ายวีดีโอ ว่า “ไม่ฉีดวัคซีนเพื่อทรราชย์” “เยอรมนีให้นาซีมีอำนาจเพราะพวกมันสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่ดีขึ้น” พวกเขาตะโกนว่า “ขอแสดงความเสียใจกับชีวิตของคุณ! เสียใจด้วย!” ตำรวจมาควบคุมสถานการณ์แต่ไม่มีรายงานการจับกุมใคร ขณะลูกค้าที่ไปซื้อของต้องหนีจากที่เกิดเหตุโดยไม่ทันได้ของเพราะวิตกกับสถานการณ์อึดอัดเหล่านี้ กลุ่มคัดค้านสวมหน้ากากเรียกตัวเองว่า กลุ่ม “โนแวร์”

อำนาจรัฐยังวุ่นไม่เลิก-6 มกราคมดีเดย์

วุฒิสภาสหรัฐฯ จัดการประชุมในวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 2564 เพื่ออภิปรายเรื่องการลงมติ คว่ำคำสั่ง ‘วีโต้’ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และบังคับใช้ กฎหมายงบประมาณกลาโหมแห่งชาติ มูลค่า 7.4 แสนล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีลงมติบังคับใช้กฎหมายไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยอมผ่านร่างกฎหมายเยียวยาที่จะมอบเช็คเงินสด 2,000 ดอลลาร์สหรัฐให้ปชช.

วันที่ 3 ม.ค. นายเท็ด ครูซ ส.ว.รัฐเท็กซัส สังกัดพรรครัฐบาลรีพับลิกัน อดีตผู้ท้าชิงลงสมัครเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯและผู้สนับสนุนตัวยงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาประกาศจุดยืนทางการเมืองว่า ตัวเองและกลุ่ม ส.ว.พรรครีพับลิกันอีก 11 คน ไม่ขอลงมติในกระบวนการรับรองผลการเลือกตั้งสหรัฐฯจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ที่สภาคองเกรสต้องดำเนินการในวันที่ 6 ม.ค.นี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ถูกกล่าวหาว่าโกงและมีความผิดปกติมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ นอกจากนี้สส.สังกัดพรรครีพับลิกัน 104 คนก็จะลงมติไม่รับรองไบเดนเช่นกัน

ขณะที่ทรัมป์ปลุกระดมสาวกลงถนนคัดค้านผลเลือกตั้ง ไม่ยอมให้โจ ไบเดนเข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐต่อจากเขา ระบุในวันที่ 6 มกราคม 2564 ที่รัฐสภา วอชิงตันดีซีเป็นจุดนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ จับตาเค้าลางสงครามภายในประเทศที่ยากขัดขวาง