จากกรณีที่เมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา หลายคนจะได้เห็นภาพของกลุ่มมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย พร้อมกับเรียกตนเองหลายชื่อตั้งแต่เริ่มมีการเคลื่อนไหวจัดการชุมนุม กระทั่งได้ชื่อเรียกชัดเจนในที่สุดว่า “ม็อบคณะราษฎร 2563”
โดยมีการประกาศรวมตัวชุมนุมกันตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อปราศรัยเรียกร้องในหัวข้อต่าง ๆ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก 2. รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งแต่ละครั้งนั้น จะปรากฏภาพของการปราศรัยจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย
และด้วยเหตุนี้เอง จึงได้มีมหกรรม “ม็อบคณะราษฎร” เดินพาเหรดต่อแถวกันเข้ารับทราบข้อกล่าวหากันเป็นจำนวนมาก รวมแล้วเกือบ 200 คดี โดยความผิดดังกล่าวมาจากการที่รวมตัวกันชุมนุมในวันต่าง ๆ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจะเห็นว่า การชุมนุมของม็อบคณะราษฎรนั้น จะมีการปราศรัยจาบจ้วงสถาบันฯ จากเหล่าแกนนำที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะมีแต่หน้าเดิม ๆ ออกตัวแรง ได้แก่ เพนกวิน พริษฐ์, รุ้ง ปนัสยา, ไมค์ ภาณุพงศ์, อานนท์ นำภา ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลที่ผิด ๆ ให้เหล่ามวลชนที่มาร่วมชุมนุมฟัง โดยไม่สนใจว่าข้อมูลนั้นจะถูกต้อง หรือเป็นการใส่ร้ายให้ใครเดือดร้อนหรือไม่
ตามมาด้วยการออกมาสนับสนุนของเหล่านักการเมืองจากพรรคต่าง ๆ ที่เข้าข้างฝ่ายม็อบคณะราษฎร ด้วยการโพสต์ข้อความสนับสนุน รวมทั้งให้กำลังใจ โดยไม่สนว่าการกระทำดังกล่าวนั้น ผิดถูกหรือไม่!?!
โดยที่เห็นกันชัด ๆ ก็มี นายธนาธร ประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางโซเชียลฯ หนุนม็อบอยู่เนือง ๆ ตามมาด้วยลูกก๊วนอย่างนายปิยบุตร ก็ด้วยซึ่งขยันโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงเรื่องประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน ในขณะที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล อย่างเจี๊ยบ อมรรัตน์ ก็ออกมาเคลื่อนไหวแบบออกหน้าออกตาหนุนม็อบสุดกำลัง เรียกได้ว่าไม่ยอมหยุดพักกันเลยทีเดียว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการแหกตาเยาวชนปลดแอกด้วยข้อมูลวิชาการเท็จที่ใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์และก่อให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในบ้านเมือง
ปีนี้จะเป็นปีแห่งการเบิกเนตรให้เยาวชนปลดแอกที่หลงผิด ประชาชนล้มเจ้า ให้ได้แลเห็นพระราชบารมีแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ คนเหล่านี้ที่ทำผิดจะได้รับการลงโทษ ให้มันจบลงที่คุก จะถูกกวาดล้างใหญ่อย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม จะมีคนเหล่านี้จำนวนมากที่จะกลับมาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ข้อมูลวิชาการเท็จจะถูกตีกะลาแตก จะมีประชาชนจำนวนมากที่จะตาสว่าง เบิกเนตรอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ ยังได้โพสต์ข้อความว่า นอกจากยั่วยุให้เกิดความแตกแยกและความรุนแรง คนเหล่านี้เคยทำประโยชน์อะไรให้กับสังคมบ้าง? ปีหน้า 2564 ขอให้คนเหล่านี้แพ้ภัยตัวเองราบคาบสิ้น และไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคมอีกต่อไป
ขอให้ #กูไม่ทนโมเดล ของแม่ค้าระยองเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัวคนเหล่านี้ อีกทั้งม็อบสร้างความแตกแยกถูกต่อต้านและขับไล่จากประชาชนทั่วไปเช่นเดียวกัน