ศาลประชาชนจีนเซินเจิ้น!?! ตัดสินลงโทษแกนนำม็อบฮ่องกง 12 มนุษย์เรือเร่ร่อน ฐานข้ามแดนผิดกฎหมาย หนักสุดคุก 3 ปี ปรับ 20,000 หยวน

2766

สื่อต่างประเทศขนานนามกลุ่มม็อบปลดแอกฮ่องกงที่มีสภาพเป็น “มนุษย์เรือเร่รอน” หรือ Boat People ว่า “12 เยาวชนฮ่องกง” (12 Hong Kong Youths) วันนี้ได้ถูกศาลประชาชนจีนเซินเจิ้นตั้งข้อหาข้ามแดนผิดกฎหมาย หลังจากถูกจับขณะนั่งเรือสปีดโบ๊ต ออกจากฮ่องกงเพื่อไปลี้ภัยที่ไต้หวัน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม แล้วโดนทางการจีนควบคุมตัวไว้ ผลการพิจารณา หัวเรือใหญ่จัดการพาคนอื่นข้ามแดน 2 คนโดนหนักกว่าเพื่อน 2-3 ปี ขณะคนอื่นอีก 8 คน โดน 7 เดือน ส่วนผู้เยาว์ส่งกลับฮ่องกง ส่วนหนึ่งแห่งชะตากรรมของม็อบปลดแอกที่พวกเขาเลือกเอง

 

ย้อนรอยBoat People ฮ่องกง?

นักเคลื่อนไหวม็อบปลดแอกฮ่องกง 12 คน ที่ตะวันตกเรียกว่า “12 HongKong Youths” มีอายุตั้งแต่ 17 ปี ไปจนถึง 33 ปี ถูกสกัดจับกลางทะเลโดยหน่วยยามฝั่งของจีนเมื่อเช้าวันที่ 23 ส.ค.2563 บริเวณที่ห่างจากฮ่องกงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 70 กิโลเมตร ขณะเตรียมบ่ายหน้าไปยังไต้หวันเพื่อลี้ภัย  นักเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ที่อยู่บนเรือ ถูกตั้งข้อหาจากการร่วมชุมนุมใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา  นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถออกจากประเทศตามช่องทางปกติได้  ไต้หวันได้กลายเป็นที่หลบภัยสำหรับผู้ประท้วงในฮ่องกงที่ต้องการหลีกหนีทางการ ที่ดำเนินการ จัดการผู้ก่อการแบ่งแยกฮ่องกง ด้วยการใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ

หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า มีชาวฮ่องกงหลายร้อยคนด้วยกันที่ไปลี้ภัยที่ไต้หวัน ส่วนใหญ่เดินทางเข้ามาอย่างถูกกฎหมายทางเครื่องบิน แต่บ้างก็ใช้วิธีลักลอบเดินทางโดยเรือ

“คุก”คือจุดหมายปลายทาง

วันจันทร์ที่ 28 ธ.ค.2563 นักข่าวต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ทางการทูตได้ทราบข่าวจะมีการตัดสินคดี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยศาลพิจารณาตามข้อกล่าวหาที่ถูกฟ้อง และจากที่ทนายขึ้นให้การ

ในวันพุทธที่ 30 ธ.ค. 2563 ศาลประชาชนจีนเขตหยานเทียนในนครเซินเจิ้น

มณฑลกวางตุ้ง แห่งจีนแผ่นดินใหญ่ตัดสินคดีว่า ได้ตัดสินลงโทษกลุ่มม็อบฮ่องกงจำนวน 10 คนซึ่งยอมรับสารภาพสำนึกผิด ขณะที่อีก 2 คนยอมรับทำความผิดจริงมีโทษหนักกว่า  ส่วนเยาวชนซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุ 17-18 ปีผลักดันให้กลับสู่ฮ่องกง โดยผลการพิจารณาคดีมีดังนี้:

ถัง ไค้ หยินอายุ 31 ปี ถูกลงโทษจำคุก 3 ปีพร้อมปรับเงิน 20,000หยวน และควินน์ มุนอายุ 33 ปี ถูกลงโทษจำคุก 2 ปี พร้อมปรับเงิน 15,000 หยวน ทั้งสองมีความผิดฐานจัดการลักลอบข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย 

ชาวฮ่องกง 8 คนมีความผิดฐานข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย และลงโทษจำคุก 7 เดือน และปรับเป็นเงิน 1 หมื่นหยวน 

วันพิจารณาคดี บรรยากาศนอกศาลเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงสื่อไม่กี่แห่งที่มาทำข่าวและไม่มีตัวแทนสถานทูตเข้ามา หลังถูกปฏิเสธการเข้าถึงในวันพิจารณาคดี  หลายเดือนที่พวกเขาถูกจับกุมคุมขังโดยไม่ตั้งข้อกล่าวหาในเมืองเซินเจิ้น สองสามสัปดาห์ต่อมา ทางการจีนจึงได้แจ้งข้อหาแก่พวกเขา ทนายผู้ต้องหากล่าวว่า 8 คนเมื่อรับโทษถูกจำคุกเป็นระยะเวลานานแล้ว ควรจะได้กลับบ้าน วันที่ 24 มีนาคม 2564 โดยได้รับอนุญาติให้อยู่ในสถานที่กำหนด พวกเขากล่าวว่าโทษที่ได้รับหนักเกินไป และโทษที่จัดการพาหนีข้ามแดน ไม่มีการสืบสวนแต่อย่างใด ตามรายงานของสนข.เอเอฟพี

ครอบครัวของพวกเขาห่วงแต่ลูกหลานไม่ใยดีบ้านเมือง?

สื่อตะวันตกพากันฉายภาพน่าเวทนาของครอบครัวและญาติของผู้ถูกจับกุม ว่าทุกคนต่างหวาดวิตกต่อการดำเนินการทางกฎหมายของจีนต่อลูกหลานของพวกเขา “ผมคิดว่า ไม่ว่ารัฐบาลจีนจะจับพวกเขาขังคุกหนึ่งวัน หรือ 7 เดือน ยังไงการติดคุกของเขาก็เป็นสิ่งผิด” พ่อของหนึ่งในผู้ต้องหานามสกุล “เช็ง” กล่าว

แม่ของผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง นามสกุล “หว่อง”กล่าวว่า “เราหวังว่ารัฐบาลจีนสามารถจัดการให้ได้เกี่ยวกับการเข้าเยี่ยมเยียน เข้าเยี่ยมได้นานแค่ไหนในแต่ละครั้ง และเราจะนำสิ่งของไปให้ได้ไหม เช่นเสื้อผ้า อาหารสำหรับพวกเขา” “พวกเรายังจำได้ว่าพวกเขาถูกจับกุมในประเทศจีน ตัดขาดจากโลก ครอบครัวและทนายซึ่งครอบครัวเลือกให้กว่า 4 เดือน ก่อนจะประกาศการดำเนินคดีในสถานที่ซึ่งพรรคคอมมินิสต์เท่านั้นที่จะอนุญาติให้เข้าไปรับฟังได้” เบียทริซ ลีพี่สาวของแอนดี ลี แกนนำม็อบที่ถูกจับ ให้สัมภาษณ์กับนสพ.รอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ทนายชาวจีนที่ครอบครัวของผู้ต้องหาเลือกให้ว่าความถูกห้ามเยี่ยมเพราะอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบสมาคม ทางการจีนบอกแค่วันที่จะพิจารณาคดี โดยครอบครัวรู้ก่อนหน้าเพียง 3 วัน ก่อนหน้านี้ครอบครัวได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนานาชาติให้ช่วยพวกเขา “พิทักษ์สิทธิทางกฎหมายแก่ผู้ต้องหา 12 คน”

คำถามคือ “กฎหมายที่จะให้พิทักษ์เป็นกฎหมายของใคร” ทั้ง 12 คนทำผิดกม.ของประเทศจีน พวกเขาต้องรับโทษตามตัวบทกม. จีนซึ่งเป็นผลจากการกระทำของพวกเขา นี่คือความชอบธรรมที่เป็นสากล

ปฏิกิริยาตอบโต้จากสหรัฐเพื่อปกป้องบริวาร??

เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในฮ่องกง และต่างประเทศอีกหลายแห่งรวมทั้งประเทศไทย เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนการแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตก ทั้งสหรัฐและพันธมิตรยุโรปที่รุมสะกัดอิทธิพลจีน โดยใช้ฮ่องกงเป็นฐานปฏิบัติการสงครามตัวแทน(Proxy War) แต่ล้มเหลว

การที่ประเทศจีนใช้อำนาจจับกุมกลุ่มปลดแอก ที่เรียกร้องแยกฮ่องกงจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฝักใฝ่ตะวันตกโดยเฉพาะสหัฐและยุโรป สาหตุเพราะพวกเขาลุกขึ้นต่อต้านและกัดเซาะแผ่นดินเกิดของพวกเขาเอง เพื่อสนองความเชื่อและความหลงใหลวิถีตะวันตก ว่าเป็นโลกแห่งความฝันและความหวัง 

ความพยายามหนีจากฮ่องกง เป็นความพยายามหลีกหนีความจริงด้วยความความหวาดกลัว ความไร้รับผิดชอบในผลลัพท์จากการกระทำของตัวเอง พวกเขาละทิ้งบ้านเกิดเพราะก่อการไม่สำเร็จตามความมุ่งหมาย ผลงานของพวกเขาคือการทุบทำลายเศรษฐกิจและสังคมฮ่องกงลงอย่างยับเยิน เป็นที่ประจักษ์ไปทั้งโลก นอกจากจะไม่ช่วยแก้ไข ยังทอดทิ้งแผ่นดินเกิดไปอย่างไม่ใยดี การที่พวกเขาต้องโทษคดี ถูกปรับเสียเงินและถูกจำคุกเสียเสรีภาพ ก็เป็นชะตากรรมที่เขาเลือกเอง

สหรัฐและบริวารเร่งโฆษณาบิดเบือนกลับดำให้เป็นขาว?

สถานทูตสหรัฐอเมริกาในจีน ได้แถลงการณ์เรียกร้องด่วนให้ปล่อยพวกมนุษย์เรือฮ่องกงทั้ง 12 คน กล่าวหาจีนเป็นทรราชย์ขณะที่ ศาลจีนมีการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายอย่างแยกแยะ แตกต่างตามวัยและวุฒิภาวะ ผู้เยาว์ถูกส่งกลับ คนมีอายุและเป็นแกนนำพาคนอื่นทำผิดกม.โดนหนักกว่าเพื่อน ที่เหลือฐานหลงผิดโดน 7 เดือน

สมุนบริวานมหาอำนาจอย่างแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงรับลูกทันทีหลังมีคำพิพากษาจำคุกว่า เยาวชนเหล่านี้ “เสี่ยงโดนทรมานหลังจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรม”

กระนั้นสหรัฐก็ยังประณามหยามเหยียดจีนอย่างที่เคยทำมาตลอด ว่าเป็นทรราชย์ขณะที่ยกย่องพวกทำลายชาติบ้านเมืองเป็นวีรชน

“พวกเขาถูกขนานนามว่า ‘กระทำการเป็นอาชญากรรม’ เพียงเพราะต่อต้านเผด็จการทรราชย์” โฆษกสถานทูตสหรัฐกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “ประเทศจีนคอมมิวนิสต์ไม่สามารถหยุดยั้งประชาชนที่แสวงหาเสรีภาพได้” ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้ดุดันว่า 

“จงหยุดแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีน และจงหยุดแทรกแซงศาลจีนกรณีฮ่องกง ซึ่งคือกิจการภายในของประเทศจีนในทันที”