ไพศาล ฟันฉับ พวกกาเหว่าล้มเจ้าพ่ายแพ้แล้ว คนไทยเคียดแค้นใจถึงที่สุด เสี่ยงเผชิญกับความรุนแรง เตือนเยาวชนรีบถอนตัวกลับตัวกลับใจตอนนี้ยังทัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นวันที่มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนายก อบจ.และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ ส.อบจ.ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจะได้เห็นผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ต่างๆ มีภาพพร้อมคลิปออกมาให้เห็นทางโซเชียลฯ ซึ่งมีทั้งที่ประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี หรือแม้กระทั่งที่คนออกมาขับไล่ ให้ออกไปจากพื้นที่หาเสียงนั้น ๆ
อย่างทีมงานคณะก้าวหน้า ที่นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีทั้งคนออกมาต้อนรับ ขับไล่ ในหลายพื้นที่ โดยส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งกว่า 42 จังหวัด ซึ่งหลายคนก็จับตามองว่า ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ คณะก้าวหน้าจะคว้านายกฯอบจ.กี่จังหวัด ต่อมาผลการเลือกตั้ง ปรากฎว่า ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกฯอบจ.ของคณะก้าวหน้า ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ทำให้พ่ายแพ้ในทุกจังหวัดที่ส่งลงชิงตำแหน่ง จะเห็นได้ว่าจากการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งในแต่ละครั้ง นายธราธร ได้เดินทางไปช่วยผู้สมัครหาเสียง มีหลายพื้นที่ ที่ประชาชนออกมาขับไล่ เปิดเพลงหนักแผ่นดินให้ฟัง หรือแม้กระทั่งตะโกนไล่ ชูป้ายถามไปถึงว่า ทำไมต้องจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์, ทำไมต้องอยากปฏิรูปสถาบันฯ ซึ่งหลายคนมองว่า การที่นายธนาธร และคณะก้าวหน้าพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้ คือ การถือนโยบายที่ผิด หมกมุ่นอยู่กับการบั่นทอนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์
หลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมา ปรากฎว่า ผู้สมัครของคณะก้าวหน้าไม่ได้รับการเลือกตั้งสักจังหวัด และนายธนาธรก็ได้ออกมาแถลงว่า พวกเราไม่ได้ตั้งใจทำงานในระดับท้องถิ่นอย่างเดียว เราจะเดินหน้าขับเคลื่อนในสิ่งที่เราทำมาสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ต่อไป นั่นคือการรณรงค์ปักธงทางความคิดการเมืองที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระบวนการและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นต่อสถานการณ์การเมือง ปฏิรูปกองทัพ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะยังรณรงค์เรื่องต่างๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือ แนวทางการทำงานของเราในปี 2564
ซึ่งจากผลการเลือกตั้ง ก็แสดงให้เห็นชัดว่า แนวความคิดของนายธนาธร ที่คิดจะล้มล้างสถาบัน ภายใต้คำพูดที่ว่าปฏิรูปสถาบัน คนไทยส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย จึงมีภาพที่หลายคนได้เห็นว่า กลุ่มคนรักสถาบันได้ออกม่ปกป้องสถาบัน ในขณะที่ม็อบก็มีการเคลื่อนไหวมุ่งโจมตีไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหลายครั้งที่เกิดการปะทะกัน ระหว่างผู้รักสถาบันและผู้ชุมนุม ตามที่เห็นในข่าว ดังนั้น ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ถ้าหากเด็กและเยาวชนยังเข้าร่วมม็อบล้มเจ้า อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะเห็นได้ชัดแล้วว่า คนไทยส่วนใหญ่ ยังคงมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการคิดปฏิรูปสถาบันของนายธนาธร ซึ่งทำให้นายธนาธรและคณะก้าวหน้าแพ้การเลือกตั้งอย่างยับเยิน
ล่าสุดทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้พูดถึงกรณีความพ่ายแพ้ของคณะก้าวหน้า และความคับแค้นใจของคนไทยผู้รักสถาบัน ที่อาจจะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าวของนายธนาธร จนอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ โดยระบุข้อความว่า
ท่านกาเหว่าที่เคารพ!!!!
ขอให้ท่านเคารพประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศด้วย!!!
1 ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่เอาพวกล้มเจ้า!!!
ขออย่าได้บิดเบือนอีกต่อไปเลยว่าเป็นชัยชนะของกาเหว่า!!!
2 พวกกาเหว่าท่านได้จาบจ้วงล่วงเกินพระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยมากที่สุดแล้ว พระองค์ท่านทรงอดทนอดกลั้นด้วยทศพิธราชธรรมได้****
แต่ประชาชนทั่วประเทศ ไม่สามารถอดทนอย่างพระองค์ท่านได้****
ความเคียดแค้นคับแค้นใจมาถึงขีดสุดแล้ว!!!!!
จึงมีความเสี่ยงที่พวกท่านจะต้องเผชิญกับความรุนแรงซึ่งไม่เป็นประโยชน์อันใดเลย! ท่านอ้างประชาธิปไตยท่านก็ต้องรับฟังเสียงประชาชนโดยเคารพด้วย
3 การดำเนินคดีในบรรดาความผิด ที่พวกกาเหว่าย่ำยีกฎหมายบ้านเมืองนั้น อย่าลำพองว่าจะมีความเหลาะแหละเหมือนกับปี 2563!!!
รีบถอนตัวกลับตัวกลับใจเสียดีกว่า
ถึงอย่างไรเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน
#เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน
พวกต่างชาตินักล่าอาณานิคมปกป้องคุ้มครองพวกท่านไม่ได้หรอก!!! ใครมีลูกหลานญาติพี่น้องไปเกี่ยวข้องด้วยกาเหว่า ต้องช่วยกันนำลูกหลานกลับมาเป็นพสกนิกรที่ดีของพระเจ้าอยู่หัวสืบไป
