จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พบว่ามีผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นจำนวนมาก ทำให้มีการสั่งล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ ดังนี้
จังหวัดสมุทรสาคร ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563-3 มกราคม 2564 โดยกำหนดพื้นที่ควบคุมโรค เด็ดขาด เช่น ปิดตลาดกลางกุ้ง และหอพักศรีเมือง ห้ามเข้าออกพื้นที่เด็ดขาด
ส่วนพื้นที่ทั่วไป กำหนดให้สถานที่หลายประเภทต้องปิดชั่วคราว เช่น สนามกีฬา สนามมวย สนามเด็กเล่น สถานศึกษาทุกประเภท สถาบันกวดวิชา สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ในส่วนร้านอาหาร เครื่องดื่ม ผ่อนผันให้บริการได้เฉพาะซื้อกลับไปบริโภคที่อื่น ร้านสะดวกซื้อปิดระหว่างเวลา 22.00–05.00 น.
จังหวัดสมุทรสงคราม สั่งปิดสถานที่เสี่ยงบางพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563-4 มกราคม 2564 เช่น สถานบริการ, สนามไก่ชน, สนามปลากัด, โรงภาพยนต์, ร้านเกม, คาราโอเกะ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, สถานศึกษาทุกแห่งในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม, สถาบันกวดวิชา, สปา,
ร้านนวด, ตลาดหรือตลาดนัด ยกเว้นที่จำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เป็นต้น
ในส่วนของ จังหวัดสมุทรปราการ ประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 4 มกราคม 2564 เช่น ปิดสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน และสถาบันกวดวิชา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนผู้สูงอายุ ใน อ.พระสมุทรเจดีย์ และ อ.พระประแดง เป็นการชั่วคราว,
สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้นั่งรับประทานอาหารอย่างเดียว งดเต้น และให้ถือปฏิบัติตามมาตรการ ศบค. กำหนด, งดการจัดกิจกรรมปีใหม่ และการสวดมนต์ข้ามปี
จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศมาตรการในการควบคุมป้องกันโควิด-19 โดยจำกัดการเดินทางของประชาชนใน 3 ตำบล (ต.ท่าตอน ต.มะลิกา และ ต.แม่อาย)
จังหวัดสุพรรณบุรี โดยกำหนด อ.สองพี่น้อง เป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีความจำเป็นจะต้องยกระดับมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้มข้นขึ้น จึงมีมติให้กำหนดมาตรการฯ เพื่อให้มีการปฏิบัติเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากคำสั่งจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 18109/2563 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2563 เฉพาะในเขตท้องที่อ.สองพี่น้องเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 3 ม.ค. พ.ศ.2564
ขณะเดียวกัน ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มีการพบผู้ติดเชื้อใหม่หลายรายในหลายพื้นที่ โดยมีการชี้แจงไทม์ไลน์ของผู้ป่วยแต่ละรายให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อตรวจสอบและป้องกันตนเอง
ในวันที่ 22 ธันวาคม ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จังหวัดนนทบุรี โดยสำนักงานสาธารณสุขนนทบุรี แจ้งว่าพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดนนทบุรี เป็นชายอายุ 64 ปี และเป็นอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) โดยผลการตรวจยืนยันเป็นบวก ผู้ป่วยรายนี้มีบ้านพักอยู่ในเขต อ.เมืองนนทบุรี มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 คน หลังจากที่ได้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่นี้อย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงทำให้ทางด้านของ ครม. ต้องมีการประชุมเป็นการเร่งด่วน
ล่าสุดทางด้านของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงมติในที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในเรื่องของการปราบปรามแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบเข้ามาผิดกฎหมาย โดยมีทางด้านของ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดต้นทางในการระบาดครั้งนี้ ได้ร่วมประชุมผ่านระบบเทเลคอนเฟอร์เร้นซ์
ซึ่งทางด้านของ นายวิษณุ ได้เปิดเผยถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำชับให้ตรวจตราอย่างเข้มข้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
“นายก ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ พลเรือน อาสาสมัคร นายจ้าง นายหน้า เกี่ยวข้องกับขบวนการแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย จึงกำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและกวาดล้างผู้กระทำความผิด พร้อมเชื่อว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ยังต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน เพราะอาจเป็นการร้องเรียนเพื่อกลั่นแกล้งกัน”