อังกฤษกระอัก ไวรัสสายพันธ์ุใหม่กลายพันธ์ุ ติดเชื้อสูง หลายชาติในยุโรปตัดการคมนาคมขนส่งกับอังกฤษทั้งพรมแดนทางบกและทางเครื่องบิน ส่วนเอเชียจับตาอย่างใกล้ชิด ย้อนมองประเทศไทยวิกฤตระบาดรอบใหม่ ที่มีจุดเริ่มจากตลาดกุ้งสมุทรสาคร เป็นแค่ยอดภูเขาการติดเชื้อ เมื่อพิจารณาไวรัสโควิด-19 กลายพันธ์ุนำเข้าจากแรงงานเมียนมา เกิดคำถามว่า เป็นเชื้อเดียวกันกับสายพันธ์ุที่แพร่ในอังกฤษ-อินเดียหรือไม่ อย่างไรก็ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไทยชี้ครั้งนี้จะระบาดสาหัสกว่าครั้งก่อน
สถานการณ์ในประเทศไทยวิกฤตระบาดรอบใหม่ครั้งนี้ เริ่มต้นจากแรงงานต่างด้าวที่มาจากพม่า ซึ่งอัตราการป่วยติดเชื้อในพม่าเป็นไปอย่างรวดเร็วและสูง เชื้อคนละสายพันธ์เป็นเชื้อที่แพร่ระบาดในตะวันตก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของไทยส่วนใหญ่ยืนยันว่า ระบาดรอบสองระเบิดจากตลาดกุ้ง แค่ส่งสัญญาณบอกปัญหายอดภูเขาคนติดเชื้อ ความจริงหนักหนาสาหัส ไม่อยากล็อคดาวน์แต่อาจยากหลีกเลี่ยง
มองการเชื่อมโยงของเชื้อโรคจากอังกฤษ-คิดถึงอินเดีย-ติดชายแดนเมียนมาแพร่มาไทย
หลายประเทศปิดพรมแดนและระงับเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรเข้าประเทศแล้ว เพราะสถานการณ์รุนแรงของประเทศอังกฤษ ทำให้นายกรัฐมนตรี นายบอรัส จอห์นสันประกาศเตือน ไวรัสกลายพันธ์แพร่ง่ายและรวดเร็ว และออกมาตรการสูงสุด ล็อคดาวน์ลอนดอน และเมืองใหญ่อีกหลายเมือง
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ว่าในวันเดียวกัน หลายประเทศประกาศปิดพรมแดนและระงับเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรเข้าประเทศ หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นรม.สหราชอาณาจักร แจ้งเตือนการกลายพันธุ์ของไวรัส COVID-19 ในสหราชอาณาจักร ซึ่งสามารถแพร่กระจายเร็วขึ้นกว่าเชื้อปกติร้อยละ 70 และระบาดรุนแรงบริเวณตอนใต้ของอังกฤษ รวมถึงกรุงลอนดอน และเวลส์
โดยปัจจุบันประเทศที่ระงับเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักร ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน โปแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน รัสเซีย จอร์แดน และฮ่องกง รวมทั้งประเทศที่ปิดพรมแดน และระงับเที่ยวบินก่อนหน้านี้ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีการติดตามผลการตอบสนองของวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ใน เดนมาร์ก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และพบในผู้ติดเชื้อ 2 รายที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย
โดยสรุปหมายความว่าการระบาดรอบใหม่ในยุโรป เกิดจากการกลายพันธ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งติดเชื้อง่ายกว่า รุนแรงและรวดเร็วกว่าและอินเดียเพิ่งสั่งระงับเที่ยวบินขนส่งจากอังกฤษเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม แล้วก่อนหน้านั้นเล่า
จากอินเดียถึงเมียนมาทำไทยเสี่ยงอย่างไร?
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถึงปัจจัยความเสี่ยงของการระบาดทั่วโลกว่ามีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในประเทศอินเดีย ซึ่งมีการเพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันมากที่สุดของโลก ส่งผลให้การแพร่ระบาดได้ลามเข้าสู่บังกลาเทศและเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดกับไทยเป็นแนวยาว และล่าสุดยอดภูเขาน้ำแข็งของการติดเชื้อในไทยระเบิดขึ้น ที่ตลาดกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร
อินเดียครองสถิติเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกคือกว่า 10 ล้านราย การระบาดในเมียนมารอบสอง แม้วิกฤตหนักเริ่มในรัฐยะไข่ ทางตอนกลางของประเทศ แต่กระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าอาจขยายมายังพื้นที่ชายแดนได้ในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น
ล่าสุด(22 ธ.ค.63)
อินเดียป่วยติดเชื้อ 10,056,248 ราย เสียชีวิต 145,843 ราย
สหราชอาณาจักร ป่วยติดเชื้อ 2,040,147 ราย เสียชีวิต 67,401 ราย
เมียนมา ป่วยติดเชื้อ 116,000 ราย เสียชีวิต 2,443 ราย
คนไทยต้องรู้ทันว่าการระบาดรอบสองเป็น ไวรัสโควิด-19 กลายพันธ์หรือไม่?
เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล แถลงถึงการถอดบทเรียนการระบาดของพม่าที่พบการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจากครั้งแรกที่เจอผู้ป่วยโควิดวันที่ 23 มี.ค. ถึง 6 ธ.ค. จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 200 เท่า และแพร่กระจายไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
เพราะการตามสอบสวนโรคประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่ระบาดทำได้น้อยกว่า 50% อีกทั้งสายพันธุ์ที่แพร่ในพม่าเป็นคนละสายพันธุ์กับอู่ฮั่นที่ระบาดในช่วงแรก D614 แต่พม่าเป็นสายพันธุ์ G614 ที่พบแพร่ระบาดในประเทศแถบตะวันตกและทั่วโลกขณะนี้ ซึ่งความต่างคือสายพันธุ์ที่แพร่ในพม่า ตัวเชื้อสามารถเพิ่มจำนวนได้เร็วกว่า 20% ทำให้แพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม ทั้งนี้ คนไทยกลับจากพม่าโดยไม่ยอมเข้าระบบและปกปิดข้อมูลตนเองจะเป็นอันตราย ทั้งคนในครอบครัว สังคม บุคคลากรทางการแพทย์
ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวเตือนคนไทยว่า
“สถานการณ์นี้ทำให้เห็นว่าจุดอ่อนแม้แต่จุดเดียว อาจส่งผลมหาศาลต่อประเทศและส่งผลกระทบเชิงลบให้กับสังคม จึงขอความร่วมมือคนไทยยกการ์ดขึ้นสูง ใช้วัคซีนที่เรามีคือปฏิบัติตามคำแนะนำ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลงทะเบียนเข้าออกเมื่อใช้สถานที่ แนะคนรู้จักให้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง เพื่อให้เรามีภูมิป้องกันโควิดได้ทันที โดยไม่ต้องรอวัคซีนที่ยังต้องใช้เวลาอีกนานไม่ต่ำกว่าครึ่งปีกว่าจะได้ใช้ หากสามารถยับยั้งการแพร่เชื้อได้เราก็จะได้ฉลองปีใหม่ แต่หากไม่สามารถทำได้ และเกิดการแพร่กระจายเชื้อก็อาจจะไม่ได้ฉลองปีใหม่ ”