ศรีสุวรรณ ตอกกลับ เพนกวิน หน้าหงาย หลังให้ตรวจสอบ ปมม็อบย้ายต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดนเรียกค่าเสียหาย 223,700 บาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 กลุ่มคณะราษฎรได้มีการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุม เข้าไปย้ายต้นไม้ที่จัดไว้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ออกมาวางเรียงบนถนนราชดำเนิน เพื่อจะเข้าไปยึดพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยระบุว่าจะไม่ให้ต้นไม้มากั้นขวางประชาชนกับประชาธิปไตยอีก ในระหว่างที่ผู้ชุมนุมเข้าไปรื้อต้นไม้นั้น มีการกระทบกระทั่งกับมวลชนเสื้อสีเหลืองฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง มีการขว้างต้นไม้ใส่กัน จนเจ้าหน้าที่และการ์ดต้องเข้ามาแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ทางสน.สำราญราษฎร์ ได้แจ้งข้อหา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ จากการที่ม็อบย้ายต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อการชุมนุม 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพนกวินยังได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
เรื่องขำขันประจำวัน: เพราะถูกแจ้งความจึงได้รู้ว่าต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยราคาสองแสนกว่า
จากกรณีจัดกิจกรรมทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้น พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยได้ร่วมแรงกันยกเอากระถางต้นไม้ที่วางล้อมอนุสาวรีย์ออกไปวางเรียงบนถนนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและคืนพื้นที่ให้ประชาชน ปรากฎว่าวันนี้ผมโดนตำรวจตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ พูดง่าย ๆ ก็คือทำลายข้าวของ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ามันทำลายยังไง ในเมื่อต้นไม้ก็อยู่ดี กระถางก็ไม่ได้แตก ม็อบเดินขบวนไปแล้วเทศกิจก็เอามาเรียงเก็บที่เดิม มันทำให้เสียทรัพย์ยังไง ยิ่งไปกว่านั้น ทาง กทม. ยังได้ตีราคาความเสียหายทั้งหมดทั้งสิ้น
“223,700 บาท (สองแสนสองหมื่นสามพันเจ็ดร้อยบาท)”
จึงขอเรียนถามทาง กทม. ว่าคุณพี่ปลูกต้นไม้อะไรราคาสองแสนกว่าบาท ต้นไม้เงินต้นไม้ทองหรืออย่างไร การใช้จ่ายเงินเป็นยังไง ใครอนุมัติ
ขอฝากคุณศรีสุวรรณ จรรยา ถ้าว่างจากการหาเรื่องฝ่ายประชาธิปไตยช่วยมาตรวจสอบเรื่องนี้ทีครับ ขอบคุณครับ
ล่าสุดทางด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความโต้เพนกวินถึงกรณีการรื้อย้ายต้นไม้บริเวณอนุสารีย์ประชาธิปไตย โดยระบุข้อความว่า
ตามที่น้องถูก กทม.เรียกค่าเสียหายจากต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อคราวที่น้องเป็นแกนนำไปจัดม็อบบริเวณดังกล่าวเมื่อ 14 ต.ค.63 เป็นจำนวน 223,700 บาท แล้วโบ๊ยมาให้พี่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ด้วยนั้น
มูลค่าความเสียหายดังกล่าว เป็นเพียงน้ำจิ้มนิดหน่อย ที่ กทม.เขาต้องคิดคำนวนตามกรอบราคากลางต้นไม้และวัสดุปลูกของกรุงเทพมหานคร ที่เขาใช้มาตั้งแต่ปี 2556 ตามคำสั่งของกรุงเทพมหานคร ที่ 801/2556 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งมีคณะกรรมการ 9 ท่านเป็นผู้พิจารณากำหนด โดยให้หน่วยงานต่างๆใน กทม. สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขตต่างๆทั้ง 50 เขตของ กทม.ใช้เป็นแนวปฏิบัติเหมือนๆกัน
ดังนั้น การที่ กทม.เขาเรียกค่าของต้นไม้ต่างๆที่เสียหายรอบอนุสาวรีย์ฯมาเพียง 223,700 บาทนั้น เมื่อเทียบกับกิจกรรมเบิ้มๆของน้องและเหล่าท่อน้ำเลี้ยงของน้องที่ล้วนแต่ระดับบิ๊กเบิ้มๆ นั้นมันจิ๊บจ้อยมากครับ จ่ายเขาไปเถอะครับ แค่นี้ท่อน้ำเลี้ยงของน้องขนหน้าแข้งไม่ล่วงหรอก เว้นแต่จะไม่มีเวลามาจ่ายค่าเสียหายให้ เพราะท่อน้ำเลี้ยงก็ต้องเอาเวลาไปรายงานตัวตามหมายเรียกของตำรวจ ตาม ม.112 ซะก่อนเท่านั้น
จาก
พี่ศรีสุวรรณ
17/12/2563
