มีวัคซีนทำดร.ฟาวซี่ทำนาย?!? สหรัฐจะกลับมาใช้ชีวิตปกติ ฤดูใบไม้ร่วงปี’64 ถ้ามะกันฉีดวัคซีน 85%

1799

ดร.แอนโทนี ฟาวซี่ ที่ปรึกษาการควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19 แห่งทำเนียบขาว ทำนายว่าอเมริกาจะกลับมาปกติอีกครั้งประมาณฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า มีเงื่อนไขว่า ถ้าคนอเมริกันส่วนใหญ่ 75%-85%ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19  ขณะที่เกิดกรณีมีคนแพ้หลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ทั้งที่อังกฤษและอเมริกา เช่นนี้ก็ยังไม่แน่นอนว่า จะมีวัคซีนต้านโควิด-19ได้ตามความมุ่งหวังและแผนงานหรือไม่ และต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ที่คนอเมริกันจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนทั่วหน้า และคนที่ไม่ต้องการฉีดเล่าจะส่งผลอย่างไร  ขณะที่การระบาดไวรัส โควิด-19 ทำคนอเมริกันป่วยติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งไม่หยุด รั้งอันดับ 1 ของโลกอยู่

ในวันพุทธ (16 ธ.ค.)ที่ผ่านมา ดร.ฟาวซีกล่าวว่า ถ้าประชาชนสามารถออกไปรับประทานอาหารค่ำ ออกไปชมภาพยนตร์ และมีความปลอดภัยในการส่งบุตรหลานกลับคืนสู่โรงเรียน สหรัฐก็สามารถกลับคืนสู่ชีวิตปกติได้ ทั้งนี้ต้องให้ประชาชนอเมริกันได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 75%-85% ก่อน

ดังนั้นถ้าเราสามารถทำการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในกลางฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 เราก็สามารถใช้ชีวิตปกติบางอย่างได้” นายแพทย์ฟาวซี่กล่าวระหว่างการร่วมสัมนาเรื่อง “สุขภาพกลับคืนมา” ที่จัดโดยสนข.ซีเอ็นบีซี

เพื่อจะกลับไปสู่ชีวิตปกติ  เฟาซี่กล่าวว่า ระหว่าง 75%-85% ของประชากรสหรัฐต้องการการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19  นั่นเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสได้ และที่สำคัญวัคซีนนั้นไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำถามคือเมื่อไหร่วัคซีนจะสมบูรณ์ ผลิตได้มากตามต้องการ?

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด ผู้จะเข้ามารับตำแหน่งเดียวกับนายแพทย์เฟาซี่ เป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ให้ ว่าที่ปธน.โจ ไบเดน ได้ประเมินว่าวัคซีนจะมีอย่างเพียงพอในช่วงปลายเดือนมีนาคม และต้นเมษายน 2021 นอกจากนี้นายแพทย์เฟาซี่ยังแจงว่า สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติกำลังรอวัคซีนเพื่อจะได้จัดสรรฉีดให้แก่กลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสม

สัปดาห์นี้วัคซีนต้านโควิด-19 จากไฟเซอร์จำนวน 2.95 ล้านโดส ได้ถูกจัดส่งไปยังศูนย์สาธารณสุข 145 แห่งทั่วประเทศแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา และหวังว่าจำนวนวัคซีนที่มากกว่านี้จะได้รับถ้า โมเดอร์นา ได้รับการอนุมัติใช้ในโครงการฉุกเฉินในสัปดาห์นี้  นายแพทย์เฟาซี่กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายที่จะได้วัคซีน 40 ล้านโดสภายในปลายเดือนนี้ ซึ่งจะสามารถฉีดให้ประชาชน 20 ล้านคน เนื่องจากต้องฉีดให้คนละ 2 โดส

การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐที่กล่าวกับนักข่าวว่า การขนส่งวัคซีนในสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ อีก 886 คำสั่งซื้อที่กำลังเดินทางกระจายไปทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.)

วัคซีนกลุ่มเริ่มต้นจะมีเท่าที่โรงงานผลิตจัดทำขึ้น เพราะต้องติดตามผลต่อภูมิคุ้มกันของทุกๆคนในสหรัฐที่ได้รับการฉีดวัคซีนไป ศูนย์ควบคุมและป้องกันการระบาดโควิด-19 ได้จัดทำแผนงานคร่าวๆเสนอให้เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพ และเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชรา ฉีดวัคซีนต้านโควิด -19 ก่อน แต่ทุกมลรัฐสามารถบริหารกระจายวัคซีนได้ตามความเหมาะสมแต่ละแห่ง

ดร.มอนเซฟ ซลาออย ผู้อำนวยการ การให้คำปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ปธน.ทรัมป์ ตามวัคซีนโปรแกรม “ปฏิบัติการวาร์บสปีด” กล่าวในการสัมมนา “สุขภาพดีคืนกลับมา” ว่า ความเป็นไปได้ที่คนอเมริกันจะฉีดวัคซีนจะไม่ได้ตามเป้าหมายในปลายปีนี้ เพราะมีอยู่ในมือเพียงประมาณ 3 ล้านโดส

“ตามแผนต้องการฉีดให้ได้ 40 ล้านคนในปีนี้  ซึ่งปัจจุบันปรับเป้าเป็น 37 ล้านคน ซึ่งยังเป็นตัวเลขไม่นิ่ง” เขากล่าว และเมื่อเรามีวัตซีนในมือจำนวนน้อย เมื่อใช้ไปในแต่ละเดือนก็จะเหลือน้อยลงอีก”

วีคซีนมีผลข้างเคียง อังกฤษสหรัฐมีคนแพ้ยาหลังฉีด

สหรัฐพบรายแรกที่แพ้โควิดวัคซีนเป็นผู้มีปัญหาภูมิแพ้  หมอเตือนสำหรับคนที่แพ้ง่ายให้ระมัดระวังการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ทาตัวนี้ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีผลข้างเคียง

หลังจากฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์แล้ว 10 นาที เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของโรงพยาบาลในอลาสกา ต้องเร่งเข้ารับการทำ อีอาร์เพราะเกิดผื่นแดงแบบรุนแรง และหายใจติดขัด นายแพทย์ส่วนใหญ่กล่าวว่า ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยส่วนใหญ่ไม่มีผลข้างเคียง แตกต่างจากผู้เข้าร่วมการฉีดวัคซีนที่สหราชอาณาจักรซึ่งมีผลข้างเคียงแพ้ยาหลังฉีดวัคซีน

อังกฤษเตือนคนแพ้ยารุนแรงเลี่ยงฉีด

รายงานอ้างแถลงการณ์ขององค์กรกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของอังกฤษ(เอ็มเอชอาร์เอ) ที่ออกคำแนะนำให้ผู้มีประวัติแพ้ยารุนแรงหลีกเลี่ยงการรับวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ และบริษัทไบออนเท็ค หลังจากมีผู้รับวัคซีนสองรายแสดงอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนในวันแรกที่อังกฤษเริ่มให้วัคซีนแก่ประชาชน

สตีเฟน โพวิส ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของระบบประกันสุขภาพอังกฤษ(เอ็นเอชเอส) ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ของเอ็นเอชเอสสองคน มีอาการแพ้รุนแรงสืบเนื่องมาจากการรับวัคซีน ซึ่งขณะนี้กำลังพักฟื้นร่างกาย ซึ่งทั้งสองคนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนหลายพันคนที่ได้รับวัคซีนชุดแรกในอังกฤษเมื่อวันอังคาร (8ธ.ค.)ที่ผ่านมา