Truthforyou

ศบค. เผยเคส 7 พยาบาลติดโควิด-19 เจอแหล่งต้นตอแพร่เชื้อป่วนแล้ว

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า วันนี้ (16 ธ.ค.) ไทยตรวจพบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ 15 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด

ภาพรวมประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 4,261 ราย  หายแล้ว 3,977 ราย เสียชีวิต 60 ราย ยังรักษาตัว 224 ราย สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนควบคุมโรคที่เกี่ยวข้องกับกรณี จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.- 16 ธ.ค. 2563 (เวลา 08.00 น.) พบผู้ติดเชื้อ 67 ราย

ในจำนวนนี้เป็นการพบเชื้อหลังเข้าอยู่ในสถานที่กักกันในพื้นที่ (Local State Quarantine:LQ) 48 ราย มีเพียง 2 รายที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 17 ราย เป็นผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติและเดินทางไปใน 7 จังหวัด โดยแต่ละจังหวัดนั้นจะครบระยะเฝ้าระวัง 14 วัน คือ จ.เชียงราย วันที่ 19 ธ.ค. เพราะรายที่พบต่อมาเป็นการพบในสถานที่กักกันทั้งสิ้น จ.เชียงใหม่ วันที่ 16 ธ.ค. จ.พะเยา วันที่ 15  ธ.ค.กรุงเทพฯ  วันที่ 20 ธ.ค. จ.พิจิตร วันที่ 15 ธ.ค. จ.ราชบุรี วันที่ 16 ธ.ค. และจ.สิงห์บุรี วันที่ 18  ธ.ค.

จากการประชุมสำนักงานตรวจราชการ สิ่งที่กรมควบคุมโรคมีความเป็นห่วง คือ จากกรณีพบบุคลากรติดเชื้อในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มนี้รวม 7 ราย ปรากฏว่า ตรวจพบเชื้อโควิด-19 อยู่ตรงลูกบิดประตู ซึ่งเป็นจุดที่มีความสำคัญมากเพราะเป็นจุดที่มีการสัมผัสกันมาก

ดังนั้นจึงต้องกำชับไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งสถานที่กักตัว ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงาน ต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดจุดที่มีการใช้มือสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู ด้ามไม้กวาด ไม้ถูพื้น เป็นต้น

ขณะที่ทางด้านนพ.วิชาญ ปาวัน ผอ.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงานติดเชื้อในประเทศเพิ่มเติม สำหรับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และ 7 จังหวัดของประเทศไทยที่มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเดินทางไปนั้น ขอให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัย สามารถไปเที่ยวได้ แต่คงมาตรการป้องกันส่วนบุคคล สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ล้างมือบ่อย ๆ และสแกนไทยชนะ เช่นเดียวกับผู้ที่เดินทางมาจาก 7 จังหวัดดังกล่าว ทุกคนไม่ได้มีความเสี่ยงกว่าคนอื่น ไม่จำเป็นต้องกักตัว สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ อย่างไรก็ตาม ทราบว่ามีการสั่งกักตัวนักเรียน ครู และพนักงานที่เดินทางกลับจาก จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ถือเป็นมาตรการเกินความจำเป็น ซึ่งการที่กักตัวอาจส่งผลกระทบต่อการเรียน จิตใจ จึงขอให้ทบทวนมาตรการดังกล่าว หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วน 1422

Exit mobile version