รัสเซียแสดงความยินดี ต่อว่าที่ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการด้วยคะแนนเสียง 306 ต่อ 232 จากคณะผู้เลือกตั้ง ประธานาธิบดีปูติน แสดงจุดยืนยินดีร่วมงานกับไบเดนเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกา จะสงบหรือวุ่นวายขึ้นอยู่กับทรัมป์และกลุ่มผู้สนับสนุนจะยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้โดยราบรื่นหรือจะค้านสุดโต่ง จับตาทรัมป์และผู้สนับสนุนที่กำลังก่อหวอดประท้วงในหลายพื้นที่ ไบเดน-ทีมบริหารและพรรคเดโมแครตจะรับมืออย่างไร?
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซียแถลงแสดงความยินดีต่อนายโจเซฟ ไบเดน หลังจากที่คณะผู้เลือกตั้ง (electoral college) ยืนยันผลอย่างเป็นทางการ เมื่อ 15 ธ.ค.63 ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 306 คะแนน โดยประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน อวยพร ให้ว่าที่ประธานาธิบดี โจเซฟ ไบเดน ประสบความสำเร็จ
“ผมหวังว่าเราสองประเทศจะมองข้ามความแตกต่างระหว่างกันเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของโลก และปรารถนาให้ว่าที่ประธานาธิบดีไบเดนประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง ผมพร้อมสำหรับความร่วมมือระหว่างกันและการติดต่อกับคุณ” นายปูตินแถลง เขาเป็นผู้นำทรงอิทธิพลโลกคนเดียวที่ไม่ได้แถลงยินดีกับนายไบเดนตั้งแต่แรก
พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่าสหรัฐฯ และรัสเซีย ซึ่งมีความรับผิดชอบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของโลก จะร่วมช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และความท้าทายที่โลกเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ผลการเลือกตั้งเป็นทางการไบเดนชนะขาด
คณะผู้เลือกตั้งสหรัฐ (Electoral College) ได้ลงคะแนนเสียงให้นายโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะทำให้นายไบเดนก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46
โดยคณะผู้เลือกตั้งได้จัดการประชุมในแต่ละรัฐทั้งหมด 50 รัฐ เพื่อหย่อนบัตรเลือกตั้งประธานาธิบดีไปเมื่อจันทร์ที่14 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
นายไบเดนได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 306 เสียง ซึ่งมากเกินพอสำหรับจำนวนที่ต้องการ 270 เสียงในการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เพียง 232 เสียง
โจ ไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ที่บ้านของเขาในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์เมื่อวันจันทร์ โดยมีเป้าหมายนำพาชาวอเมริกันให้ผ่านพ้นความวุ่นวายของการหาเสียง และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ในปีนี้ ชาวสหรัฐและผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจกระบวนการต่างๆ ที่ยังคงเหลืออยู่ เนื่องจากปธน.ทรัมป์ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง แม้ว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.มาแล้วกว่า 1 เดือน โดยเขาอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้ง แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน และการฟ้องร้องต่อศาลในแต่ละรัฐที่เขาเสนอให้นับคะแนนใหม่ไม่ได้รับการตอบสนอง
สำหรับในขั้นตอนต่อไปนั้น ในวันที่ 23 ธันวาคม 2563 รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งมีสถานะเป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง จะทำการรับมอบใบรับรองผลการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการจากคณะผู้เลือกตั้ง
ในวันที่ 6 มกราคม 2564 สภาคองเกรสจะจัดการประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนับผลคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจากคณะผู้เลือกตั้ง โดยรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะเป็นประธานการประชุม และจะเป็นผู้ประกาศผลการนับคะแนน โดยผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ
ในวันที่ 20 มกราคม 2564 นายไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดี จะเข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ทรัมป์ยังมีโอกาสชนะอีกหรือไม่?
นักวิเคราะห์ของบีบีซีมองว่า ผลลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งไม่พลิกโผ ไม่แตกแถว และโอกาสของทรัมป์ปิดลงแล้ว แต่ทรัมป์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ทีมกฎหมายของทรัมป์ก็จะเดินหน้าฟ้องศาลต่อไป แต่ ไม่ว่าจะทำวิถีไหน แต่สุดท้ายแล้วก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ศาลไม่รับฟ้องและสภาคองเกรสก็จะต้องเดินหน้าไปตามกลไกที่ต้องปฏิบัติ ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยประกาศถ้าคณะผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้ไบเดนเป็นผู้ชนะอย่างเป็นทางการ เขาก็จะยอมย้ายออกจากทำเนียบขาว แต่เขาจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้เพราะมั่นใจว่ามีการโกงเลือกตั้ง จับตาว่า ทรัมป์จะย้ายออกไปเมื่อไหร่?
ขณะที่สัญญาณความวุ่นวายของการประท้วงในเมืองต่างๆเริ่มส่อเค้า