เตรียมออกหมายเรียกผู้จัดคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาท์เท่น” รับทราบข้อหา จนท.รวบรวมหลักฐานเอาผิดหลายกระทง

4167

หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ใช้อำนาจพรก.ฉุกเฉิน สั่งปิดงานคอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น เขาใหญ่นั้น โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เล็งเห็นว่า การจัดงานสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีมาตรการป้องกันไม่เคร่งครัดพอ

โดยเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้จัดงานคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาท์เท่น 2020” Big Mountain Music Festival 2020 ว่า กรณีของการจัดคอนเสิร์ตและและควบคุมโรค เป็นอำนาจพิจารณาและการกำกับดูแลของ 2 หน่วย คือ ฝ่ายปกครองในฐานะผู้อนุญาต และสาธารณสุขในฐานหน่วยงานด้านการควบคุมโรค ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยและบังคับใช้กฎหมาย เหตุที่ผู้มีอำนาจสั่งปิดด้วยจำนวนคนเยอะ การคุมพื้นที่ด้านการควบคุมโรคไม่สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีผู้ต้องสงสัยติดโควิด-19 เข้าบริเวณงาน แต่ต่อมาไม่พบว่ามีเชื้อ

จากการตรวจสอบหลักฐานการขออนุญาตและการอุทธรณ์คำสั่งเจ้าพนักงาน ทางสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัด คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้มีอำนาจ คือ นายภาวิตร จิตรกร และ นางสาวบุษบา ดาวเรือง ที่สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ใน 2 ข้อหาคือ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯและขัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แจ้งความดำเนินคดี 2 บิ๊กแกรมมี่ เมินคำสั่งยุติการแสดง ฝ่าฝืนเล่นคอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่นต่อ

ล่าสุดทางด้านพล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีว่า ได้มอบหมายให้พ.ต.อ.ราชศักดิ์ ญาณอุบล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฯ เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน เพื่อเร่งรัดทำสำนวนคดีให้เสร็จใน 2 วัน

โดยหลังจากนี้จะทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดฯ เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง เช่น การขออนุญาตจัดคอนเสิร์ต, เอกสารคำสั่งประกาศ และเอกสารแจ้งผลการอุทธรณ์ รวมทั้งส่งเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นยังไม่ทราบชัดเจนว่า คณะกรรมการควบคุมโรคอนุญาตให้ใครเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ส่วนการยื่นขออนุญาตเป็นการขอในนามตัวบุคคล หรือในนามบริษัทนั้น ต้องดูเอกสารให้ชัดเจน

สำหรับงานคอนเสิร์ตนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า พ่องานคือ ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม ซึ่งปัจจุบันเจาตัวเป็นดีเจที่ คลื่น 89 chill fm ของ เอไทม์ มีเดีย และเป็นผู้บริหารบริษัท เกเร จำกัด ที่รับจัดงานแสดงดนตรี งานสำคัญของบริษัทได้แก่ บิ๊ก เมาท์เทน มิวสิก เฟสติวัล ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 แล้ว

ส่วนกระแสดราม่าของการจัดงาน มีมาตั้งแต่ก่อน 1 สัปดาห์ที่จะเริ่มงาน เนื่องจากช่วงนั้นมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในพื้นที่เชียงใหม่- เชียงราย โดยมีคนไทยจำนวนมากในท่าขี้เหล็ก พม่า ลักลอบเข้าเมือง และแพร่เชื้อไปยังกลุ่มคนอีกนับสิบ ทำให้เกิดการตั้งคำถามของแฟน ๆ คอนเสิร์ตที่ซื้อบัตรไปแล้วว่า งานนี้ สมควรจะจัดต่อหรือไม่? เนื่องจากคนมาร่วมงานหลักหมื่น และระบบการคัดกรอง การเว้นระยะห่าง การป้องกันโควิด-19 จะทำได้ดีแค่ไหน

บวกกับเหตุการณ์ดราม่ายังถูกโยงการเมืองเข้ามาด้วย เมื่อไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์” หรือ “แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์” ทวิตข้อความอ้อน “ป๋าเต็ด” ขอไปขึ้นแจมบนเวที “บิ๊กเมาน์เท่น” ด้วยคน เพราะเห็นว่ามีจุดยืนทางการเมืองอยู่ข้างม็อบ 3 นิ้วเหมือนกัน ซึ่ง “ป๋าเต็ด” ก็แสดงท่าทีไม่ขัดข้อง แต่ได้ตอบกลับว่า จุ๊ จุ๊ จุ๊ คล้ายจะบอกว่า“อย่าเอ็ดไป” เหมือนส่วนนึงป๋าเต๊ดก็ยังเกรงใจแฟนเพลง ที่ไม่อยากจะยุ่งเรื่องการเมืองอยู่

จนสุดท้าย “แอมมี่” ก็เปลี่ยนใจ ไม่ไปร่วมเวที โดยอ้างว่าเพื่อความเป็นธรรมกับศิลปินคนอื่น ๆ ขณะที่ข่าวบางกระแสก็บอกว่า ที่นักร้องขวัญใจคณะราษฎร ต้องถอนตัว ก็เพราะว่ามีแฟนเพลงขอคืนบัตรจำนวนมาก

พอถึงวันจัดงานจริงในวันที่ 12 ธ.ค. 2563 คืนแรกนั้น ต้องยอมรับว่า งานเละเทะมาก กลุ่มคอเพลงทิ้งขยะเกลื่อน และมีกระแสบ่นกันถึงความหละหลวมในการป้องกันโควิด-19

แม้เจ้าของผู้จัดงานจะเตรียมตัวมาดี แต่พอถึงเวลาหน้างานจริง ๆ แฟน ๆ บ่นกันระนาวว่า “จะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว ยังไม่ได้เข้าถึงในงานเลย” อีกหลายเสียงก็บอกว่า งานแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ควรจัดเลย ใครไปงานเสร็จกลับบ้าน ก็ไปกักตัวเองกันเอง หรือถ้าอีก 14 วันบ้านเรามีจำนวนคนติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น ก็คงมาจากงาน “บิ๊กเมาท์เท่น 11”

นอกจากในงานนี้ ผู้จัดงานไม่ได้ทำตามมาตรการควบคุมเชื้อโควิด-19 ดีพอแล้ว ผู้เข้าชมงานจำนวนมากไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการเว้นระยะห่าง แถมมีการตะโกนร้องเพลงตามศิลปินกันอย่างเมามันส์

รวมทั้งท่อน้ำเลี้ยงม็อบก็มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งโห่ร้อง ชู 3 นิ้ว ขนเป็ดยางมาด้วย จนแยกไม่ออกว่า นี่มันงานคอนเสิร์ต เฟสติวัล หรือเวทีปราศรัย ซึ่งที่จริงแล้วงานนี้มันควรจะได้เป็นงานดนตรี ร้อง เล่น เต้นกันสนุกสนาน ไม่รู้ว่า “ป๋าเต็ด” ไปพลาดท่าตรงนั้น หรือเชื่อในกระแสปลุกระดมของพวก 3 นิ้วมากเกินไป

แทนที่จะยอมยกเลิกการจัดงานตามคำสั่งผู้ว่าฯ แต่โดยดี เพราะก็เห็น ๆ กันอยู่ว่า ผู้จัดงานไม่สามารถทำตามมาตรการที่ทางจังหวัดกำหนดได้ แต่ทางด้าน“ป๋าเต็ด” กลับยื่นอุทธรณ์คำสั่ง โดยอ้างว่าได้ขายบัตรไปหมดแล้ว ซึ่งในท้ายที่สุดทางจังหวัดก็ยืนยันคำสั่งเดิม ให้ปิดการแสดงคอนเสิร์ตทันที แต่ทีมงาน “บิ๊กเมาท์เท่น 11” ก็ยังคงไม่สนใจ เหมือนไม่ได้ยินคำสั่งของผู้ว่าฯ ยังคงเดินหน้าจัดงานต่อไป เอาเชือกออกมาขึง กั้นเป็นช่องให้ผู้ชมนั่ง เพื่อจะบอกว่า นี่เพิ่มมาตรการควบคุมโควิด-19 นักร้องก็ร้องไป ไม่ได้มีใครสนใจคำสั่งของผู้ว่าฯ


นอกจากนี้ “เฮียบุ๊ง” ปกรณ์ พรชีวางกูร ท่อน้ำเลี้ยงของแก๊ง “ม็อบ 3 นิ้ว” ยังออกมาเชียร์ป๋าเต็ด ให้อารยะขัดขืนไปเลย แถมโบ้ยเบี่ยงประเด็นไปไกลว่า ที่ผู้ว่าฯ สั่งปิดคอนเสิร์ต ก็เพราะเด็กิ ๆ และศิลปินแสดงออกทางการเมือง จำกัดเสรีภาพซะดื้อ ๆ

เมื่อถึงเวลานี้ทั้งผู้เกี่ยวข้อง 2 บิ๊กบอสจีเอ็ม เอ็ม แกรมมี่ จึงมีชื่อถูกแจ้งความ รวมทั้งต่อไป ผู้จัดงานก็จะโดนด้วย เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่ดราม่าสั่งปิดคอนเสิร์ต แต่ถ้าป๋าเต็ดไม่หลงไปกับคำยุของพวก 3 นิ้ว ก็อาจจะไม่บานปลาย ต้องโดนแจ้งข้อหาว่าฝ่าฝืนจัดคอนเสิร์ตต่อ หรืออันที่จริง เรื่องราววุ่นวายนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าตัดสินใจยกเลิกงานตั้งแต่แรก?