นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จี้อัยการ ชี้แจงเหตุ ไม่ฟ้อง น้องชายธนาธร ติดสินบน 20 ล้าน หวั่นซ้ำรอยคดีกระทิงแดง
จากกรณีที่น้องชายของธนาธร นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้มีการจ่ายเงิน 20 ล้านบาทให้กับบุคลากรคนหนึ่งของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ หวังจะได้สัมปทานที่ดินทำเลทองย่านชิดลม แต่กลับกลายเป็นว่า โดนเขาหลอกอีกที เนื่องจาก บุคลากรคนนั้นไม่มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพย์สินที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งก็เป็นที่จับตามมองและวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ทำไม นายสกุลธรถึงยังไม่ถูกดำเนินคดี
ล่าสุดทางด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 20 ล้านบาท ของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยระบุข้อความว่า
วิเคราะห์คำพิพากษาคดีน้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
-ระยะนี้ มีการวิจารณ์/ให้ความเห็น ต่อคำพิพากษากรณีการให้สินบนเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และมีน้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
-ศาลอาญาทุจริตฯมีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ อท.228/2562 ลงวันที่ 27 พย.2562 จำคุกเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และผู้เกี่ยวข้อง มีผู้สงสัยว่า ทำไมน้องนายธนาธร จึงไม่ถูกฟ้องด้วย
-ผมอ่านคำพิพากษามา 2-3 รอบแล้ว มีความเห็นทางวิชาการ ดังนี้
1.ตามคำฟ้องและคำพิพากษาตอนต้น ศาลใช้คำว่า “สำนักงานทรัพย์สินฯ,นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ และประชาชนเป็นผู้เสียหาย” จึงฟังได้ว่า ในตอนแรก นายสกุลธร ถูกเจ้าหน้าที่หลอกลวง จึงเชื่อว่า เอกสารที่ออกมาจากสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นเอกสารที่แท้จริง ความจริงแล้วเอกสารที่ออกมาเป็นเอกสารปลอม นายสกุลธร จึงเป็นผู้ถูกหลอกลวงไปด้วย ตอนนี้นายสกุลธรจึงยังเป็นเพียงผู้เสียหายไม่ได้ทำผิดอะไร
2.แต่เมื่อนายสกุลธร ถูกหลอกด้วยเอกสารปลอม ต่อมานายสกุลธร ก็เกิดอยากเช่าที่ดินนั้นขึ้นมา แต่”ต้องการเช่าโดยไม่ผ่านการประมูลตามขั้นตอนปกติ” จึงจ่ายเงินผ่านคนกลางไป 3 งวด เป็นเงิน 20 ล้านบาท ในตอนนี้ ศาลวินิจฉัยโดยใช้คำว่า” ทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯและประชาชนได้รับความเสียหาย” โดยตัดคำว่า นายสกุลธรเป็นผู้เสียหายออกไป ในตอนนี้ จึงฟังได้ว่า นายสกุลธร ให้เงินเจ้าหน้าที่เพื่อติดสินบนโดยไม่ต้องการประมูลตามวิธีปกติ อีกทั้ง ศาลลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา143 โดยวินิจฉัยว่า “จำเลยทั้งสองร่วมกันเป็นตัวกลางในการเรียกรับสินบน” ดังนั้น เงิน 20 ล้านก็อนุมานได้ว่า คือเงินสินบนเพื่อไม่ต้องเข้าประมูลด้วยวิธีการปกตินั่นเอง ผมจึงมีความเห็นทางกฎหมาย ว่า
1.อัยการต้องชี้แจงว่า เมื่อตอนท้ายของคำฟ้องและคำพิพากษา ที่มีการจ่ายเงิน 20 ล้าน ไม่ได้ระบุว่า นายสกุลธร เป็นผู้เสียหายอีกต่อไป แต่ฟังได้ว่า เป็นผู้ให้เงินจำนวนนี้ เพื่อติดสินบนเจ้าพนักงาน เหตุใด อัยการจึงไม่แจ้งข้อกล่าวหานายสกุลธร ว่าร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน อันนี้ จะซ้ำรอยคดีกระทิงแดงหรือเปล่า?
2.สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส เอาจริงเอาจัง เห็นควรให้”กลุ่มราษฎร” ชื่นชมในความโปร่งใสบ้าง และถือว่า นี่คือการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหนึ่ง และเป็นการปฏิรูปที่ไม่ต้องมีใครมาชุมนุมเรียกร้อง ถ้าเราไม่มีอคติ หรือมีเจตนาแอบแฝงในเรื่องอื่น ผมหวังจะได้คำชมจาก”กลุ่มราษฎร” และกลุ่มผู้ชุมนุมบ้าง เล็กน้อยก็ยังดีครับ/