รัฐบาลเชิญชวนชาวไทยเฝ้าฯรับเสด็จ”ในหลวง-พระราชินี” เนื่องในพิธีมหามงคลสดุดีพระเกียรติคุณ น้อมรำลึก คล้ายวันพระบรมราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 วันที่ 5 ธ.ค. เผยวาระสำคัญบ้านเมืองอันเป็นมงคล
จากที่วันนี้(1ธ.ค.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย รัฐบาลขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าเฝ้าฯรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีจุดเทียนมหามงคล
“เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณ และน้อมรำลึกในพระมหาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ 5 ธันวาคม 2563 ท่ามกลางมหาสมาคมของประชาชนทุกหมู่เหล่า ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย ในวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค.เวลา 19.19 น.ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดให้จัดพิธีพร้อมกับส่วนกลาง ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม ในส่วนต่างประเทศ สถานเอกอัคราชทูต และสถานกงสุลพิจารณาจัดพิธีตามที่เห็นสมควร สำหรับการแต่งกายเชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ชุดไทย ชุดผ้าไทย ชุดพื้นเมือง ชุดท้องถิ่น ชุดย้อนยุค ตามขีดความสามารถ หรือชุดสุภาพ สีตามอัธยาศัย เพียงแต่ขอร้องอย่าใส่สีดำเท่านั้นเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราเป็นวาระอันเป็นมงคล
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ อดีตพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และภาคีเครือข่ายหลายกลุ่ม ยื่นหนังสือคัดค้านการยื่นญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการปฏิรูปสถาบันฯ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น
“เรายืนยันว่าเราชุมนุมถูกต้องตามกฎหมาย มีการขออนุญาตตามขั้นตอน กทม.จึงอำนวยความสะดวกให้ตามปกติ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่ม็อบอีกกลุ่มไม่ได้ขออนุญาต และไม่ทำตามกฎหมาย เราเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่ได้กระโดดข้ามรั้ว อย่างไรก็ตามหลังยื่นหนังสือเสร็จเราจะเดินทางกลับ และจะนัดรวมตัวกันใหม่อีกครั้งเพื่อแสดงพลังในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จัดให้เบิ้มๆ” อดีตพระพุทธะอิสระ กล่าว