ทางการลอนดอน รวบตัวผู้ชุมนุม ประท้วงต่อต้านล็อกดาวน์ กว่า 150 ราย ท่ามกลางยอดติดเชื้อพุ่ง 12,000 ต่อวัน

1965

สื่อท้องถิ่นสหราชอาณาจักรรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคระบาด ก่อเหตุขว้างปาขวดและพยายามฝ่าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจในใจกลางกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศ ในวันเสาร์ (28 พ.ย.) โดยมีผู้ก่อเหตุถูกจับกุมมากกว่า 150 ราย

โดยหนังสือพิมพ์อีเวนนิง แสตนดาร์ด ของลอนดอน รายงานว่าเมื่อนับถึง 19.00 น. ของวันเสาร์ (28 พ.ย.) ตามเวลามาตรฐานสากล ตำรวจลอนดอนได้จับกุมผู้ชุมนุมด้วยข้อหาต่างๆ อาทิ ฝ่าฝืนข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และครอบครองยาเสพติด จำนวน 155 ราย

ทั้งนี้สก็อตแลนด์ ยาร์ด หรือสำนักงานใหญ่ของตำรวจนครบาล ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ดำเนินการแทรกแซงล่วงหน้า” เพื่อป้องกันการรวมตัวกันของประชาชน พร้อมกระตุ้นเตือนพวกเขากลับบ้าน โดยตำรวจได้สกัดรถโดยสารของกลุ่มผู้ประท้วงที่มุ่งมายังกรุงลอนดอน ก่อนจะจับกุมและประกาศบทลงโทษผู้ที่ไม่ยอมกลับบ้าน โดยผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินขบวนใกล้ถนนอ็อกซ์ฟอร์ดของกรุงลอนดอน พร้อมร่วมตะโกนคำว่า “เสรีภาพ” บางคนถือป้ายข้อความ “หยุดควบคุมเรา” และ “ไม่เอาล็อกดาวน์อีกแล้ว”

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ระบุว่า “เกิดการปะทะที่ค่อนข้างรุนแรง” ระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงบางคน และการจราจรบนถนนรีเจนต์เป็นอัมพาตชั่วขณะ ตำรวจนครบาลลอนดอนกระตุ้นเตือนประชาชนไม่เข้าร่วมการประท้วงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ พร้อมเตือนว่าผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมอาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

ปัจจุบันอังกฤษอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศนาน 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนับเป็นการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในประเทศ

อย่างไรก็ตามแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ระบุว่าหลังมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า พื้นที่ส่วนมากของอังกฤษจะเริ่มบังคับใช้ข้อจำกัดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดภายใต้ระบบการควบคุมด้านสาธารณสุขใหม่ที่แบ่งเป็น 3 ระดับ โดยลอนดอนจะบังคับใช้มาตรการในระดับ 2 และได้มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอังกฤษตอนนี้จำนวน 12,155 รายต่อวัน