เลิกเป็น “อีแอบ” ได้แล้ว!! เชาว์ สนับสนุน ถาวร ร่วมถลกสันดาน “ปิยบุตร” ต้องการล้มล้างสถาบันฯ แต่ไม่กล้ายอมรับความจริง!!
จากกรณีที่ทางด้านของ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แถลงข่าวเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยได้มีการกล่าวถึง ปิยบุตร และคณะก้าวหน้า มีแนวคิดล้มล้างสถาบัน ทำให้ทางด้านของ ปิยบุตร ได้ออกมาตอบโต้ต่างๆ
ถาวรท้าปิยบุตรฟ้องถ้าที่แฉไม่จริง ลั่นคุณนักกม.-ผมก็นักกม.มาพิสูจน์ความจริงกันที่ศาล
ล่าสุดทางด้านของ นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ในเรื่อง สันดานปิยบุตร กล้าคิด แต่ไม่กล้ายอมรับความจริงว่า ต้องการ “ล้มสถาบัน” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ผมเห็นข่าวนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ขู่ว่าสิ่งที่ นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับแนวคิดล้มสถาบัน และชำแหละให้เห็นว่าเป็นผู้ชักใยม็อบสามนิ้วนั้น เข้าข่ายหมิ่นประมาท พร้อมแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ด้วยวาทกรรมเดิม ๆ ว่า ไม่คิดล้มล้างต้องการแค่ปฏิรูปสถาบัน แถมด้วยการดูหมิ่น ดูแคลนคนเห็นต่างว่าเป็นกลุ่มไม่ทันยุคสมัยแล้ว รู้สึกเอนจอนาจใจ ที่คนเป็นถึงอาจารย์สอนกฎหมาย กล้าคิดการใหญ่ แต่กลับไม่กล้ารับความจริง ซึ่งมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่านี่คือความ “ขี้ขลาดตาขาว”ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริงเพราะกลัวความผิด จึงใช้วิธีตะแบงไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่ใช่วิถีของนักประชาธิปไตย
ผมสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลของรัฐมนตรีถาวร และอยากเห็นนายปิยบุตร ที่อ้างว่าถูกหมิ่นประมาท นำเรื่องไปฟ้องเป็นคดีต่อศาล จะได้มีการพิสูจน์ความจริง เปิดให้เห็นไส้ที่ซ่อนไว้ทุกขด ดูกันให้หมดจดว่ามีสิ่งไหนที่ซุกไว้บ้าง เพราะคนที่ติดตามการเคลื่อนไหวของนายปิยบุตร ย่อมต่อจิ๊กซอว์ได้อย่างชัดเจนว่า นายปิยบุตร ไม่ได้แค่อยากปฏิรูป แต่ไปไกลถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์คิดล้มล้างสถาบัน เริ่มตั้งแต่มีข้อเสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 และห้ามกษัตริย์ตรัสกับประชาชน จนเปลี่ยนเด็กเมื่อวานซืนใต้เงา วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เมื่อปี 2555 ไต่ระดับตัวเองมาถึงวันนี้
ยังไม่รวมพฤติกรรมหลายอย่างที่ล้วนสอดรับกับแนวคิดล้มล้างสถาบันทั้งสิ้น เช่น การไปพูดหรือไปบรรยายว่า สถาบันพระมหากษัตริย์มีความเป็นทรราชในตัวเอง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของคนที่ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ จนนำไปสู่ความเกลียดชังได้ในที่สุด นำเอาเรื่องปฏิวัติฝรั่งเศส มาหลอกล่อเยาวชนให้หลงคล้อยตาม ซึ่งปลายทางของการปฏิวัติฝรั่งเศส ส่งผลเปลี่ยนแปลงต่อสถาบันกษัตริย์อย่างไร ทุกคนคงทราบอยู่แล้ว พฤติกรรมทั้งหมดทั้งวิธีคิด คำพูด และการกระทำที่ไม่เคยแสดงออกถึงความเคารพต่อสถาบันกษัตริย์ แล้วยังจะแถว่าไม่เคยคิดล้มล้าง ใครเขาจะเชื่อล่ะครับ
ยิ่งถ้าดูวิธีคิดห้ามกษัตริย์ตรัสกับประชาชนที่นายปิยบุตรเคยเปิดประเด็นไว้นั้น ยิ่งสะท้อนชัดถึงความไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะนอกจากเป็นการละเมิดสิทธิขององค์พระมหากษัตริย์ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งแล้ว ยังลิดรอนสิทธิคนไทยที่รักเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอีกด้วย นายปิยบุตร แนะนำให้ฝ่ายที่เห็นต่าง ยกกระจกส่องดูตัวเองจะได้รู้สาเหตุที่ทำให้เกิดการชุมนุม ผมก็อยากแนะนำในลักษณะเดียวกันคือให้นายปิยบุตรกับพวก ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเอง แล้วจะพบว่าพฤติกรรมทั้งหมดที่ผ่านมา ล้วนแต่ละเมิดกฎหมาย เงาหัวตัวเองกำลังจะหาย โดยเงื้อมมือกฎหมายแล้วยังจะไม่รู้ตัว
แต่เอาล่ะอีกไม่นานทุกคดีก็ต้องไปพิสูจน์กันที่ศาลว่า แท้ที่จริงแล้วมันคือการปฏิรูปหรือปฏิปักษ์ล้มล้างกันแน่ แต่ถ้านายปิยบุตรร้อนใจกับคนที่เปิดโปงและกล่าวหาว่าเป็นการหมิ่นประมาท ก็รีบฟ้องเลยครับ คงไม่ใช่เฉพาะรัฐมนตรีช่วยถาวร ผมเชื่อว่าคนไทย 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ก็เชื่ออย่างที่นายถาวรออกมาเปิดโปง เพราะในทางกฎหมายใช้หลักกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา นายปิยบุตรคิดร้ายต่อสถาบันอย่างไรให้ดูที่การกระทำและสันดาน ไม่ใช่คำพูดที่ปากบอกว่าปฏิรูปคือทำให้ดีขึ้นแต่การกระทำกลับย้อนแย้ง เปรียบเปรยดั่งคนกิริยาวาจางามแต่สันดานโจร ยังไงก็เป็นโจรอยู่วันยังค่ำครับ