เละทั้งสภา?!? ดีเบตนำเข้าเสรีเนื้อหมูสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐ สส.ฝ่ายค้านรัฐบาลวางมวยขว้างไส้หมูใส่นายกฯอุตลุด

1846

ส.ส.ไต้หวันฝ่ายค้าน-รัฐบาลตะลุมบอนเขวี้ยงเครื่องในหมูกระจายเกลื่อนสภา ค้านสุดลิ่มนำเข้าเนื้อหมูสารเนื้อแดงเสรี จากสหรัฐฯ  นายกรมต.พยายามชี้แจงแต่ฝ่ายค้านไม่ฟัง สืบเนื่องจากปธน.ไช่ อิงเหวินประกาศปีใหม่2564เปิดเสรีนำเข้าเนื้อวัวและเนื้อหมูมีสารแรคโตพามีน ก่อกระแสไม่พอใจจากประชาชนมากขึ้น คาดยังจะวุ่นวายอีกนาน เพราะลงนามข้อตกลงทวิภาคีไปแล้ว เอาใจวอชิงตันเพราะมุ่งมั่นแยกตัวอิสระจากจีน คุ้มไหมกับชีวิตและสุขภาพของประชาชน

บรรยากาศ  “มวยหมู่” กลางสภานิติบัญญัติไต้หวันกลับมาอีกครั้งวันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อ ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋งขว้างปา ‘เครื่องในหมู’ และเปิดฉากวางมวยกับ ส.ส.พรรคอื่นๆ เพื่อสกัดไม่ให้นายกรัฐมนตรีตอบคำถามระหว่างที่กำลังมีการอภิปรายเรื่องการผ่อนคลายกฎนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐฯ

ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ประกาศเมื่อเดือน ส.ค.2563 ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564เป็นต้นไป รัฐบาลไต้หวันจะอนุมัติการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐฯ ที่มีสารแรคโตพามีน (ractopamine) ซึ่งเป็นสารเร่งเนื้อแดงที่ถูกแบนในสหภาพยุโรปและจีน รวมไปถึงเนื้อวัวซึ่งมีอายุเกินกว่า 30 เดือนขึ้นไป

แม้การผ่อนปรนนี้จะสร้างความพอใจต่อวอชิงตัน และยังช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันและการตกลงซื้ออาวุธสงครามมากมายเพื่อพัฒนากองทัพ ทว่า ส.ส.พรรคก๊กมินตั๋งได้ออกมาค้านสุดลิ่มทิ่มประตู โดยอ้างประเด็นเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) หลังจากที่เกิดกรณีอื้อฉาวขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ส.ส.พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ตัดสินใจหากลยุทธ์เปิดทางให้นายกรัฐมนตรี “ซู เจิงชาง” แถลงต่อสภาให้ได้ในวันนี้ (27) โดยตั้งแถวเป็นแนวป้องกันขณะที่นายกฯ เดินเข้าสู่สภา ซึ่งทำให้ส.ส.ฝ่ายค้านเป่านกหวีดและชูป้ายประท้วงด้วยความไม่พอใจ แต่ในขณะที่ ซู กำลังจะพูด ส.ส.พรรคก๊กมินตั๋งก็ขว้างตะกร้าเครื่องในหมูเข้าใส่นายกฯ และเกิดการเผชิญหน้าขึ้นระหว่างส.ส.ก๊กมินตั๋งกลุ่มหนึ่งกับ เฉิน ป๋อเหว่ย ส.ส.จากพรรค Statebuilding Party

นายกฯ ซู ล่าถอยออกไปสักพัก และพยายามจะกลับมาตอบคำถามอีกครั้ง แต่ก็ถูก ส.ส.ก๊กมินตั๋งส่งเสียงโห่ดังลั่นจนฟังไม่ได้ศัพท์

พรรค DPP ได้แถลงประณาม ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยชี้ว่าการนำเครื่องในหมูมาเทในสภานั้นเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และยังทำให้สภาเปรอะเปื้อนซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ “น่ารังเกียจ” พร้อมเรียกร้องให้คุยกันด้วยเหตุผลจะดีกว่าพรรคก๊กมินตั๋งวิจารณ์รัฐบาลว่าตัดสินใจอย่างรีบร้อน และทำให้ผู้บริโภคต้องเผชิญความเสี่ยง

“เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และปกป้องหลักการพื้นฐานของความปลอดภัยด้านอาหาร เราในฐานะพรรคฝ่ายค้านจึงมีหน้าที่จะต้องขัดขวางสถานเดียว” พรรคก๊กมินตั๋งระบุในถ้อยแถลง