อิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี บรรลุข้อตกลงเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ขั้นปกติ ซึ่งนับเป็นข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับรายที่ 3 รองจากอียิปต์ และจอร์แดน และทำให้อิสราเอลประกาศระงับแผนผนวกดินแดนปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบ็งค์ชั้วคราว ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกแผนผนวกดินแดนปาเลสไตน์ว่า “ข้อตกลงอับบราฮัม” ทำโลกอาหรับเดือดพล่าน ประณามยูเออีเห็นแก่ตัวทรยศหักหลังมุสลิมด้วยกัน
ในการแถลงครั้งนี้ประกอบด้วย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ , นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล และมกุฏราชกุมารแห่งอาบูดาบี เจ้าชายโมฮัมเหม็ด อัล นาห์ยาน ต่างก็บอกว่าพวกเขาหวังว่าความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะช่วยผลักดันสันติภาพในตะวันออกกลางให้ก้าวหน้าไปได้
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียใด ๆ และเนื่องจากความวิตกเรื่องอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาค การติดต่อระหว่าง 2 ประเทศก่อนหน้านี้ จึงเป็นการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการ
ในส่วนของการชะลอแผนการผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบ็งค์มาเป็นของอิสราเอลอย่างเป็นทางการนั้น เนทันยาฮูประกาศว่าเรื่องการผนวกยูเดีย และ ซามาเรีย ภายใต้การประสานงานอย่างเต็มที่กับฝ่ายสหรัฐ ยังคงอยู่ในการพิจารณา ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในแผนนี้ โดยเขายังคงมุ่งมั่นกับเรื่องนี้ต่อไป อิสราเอลจะมีความร่วมมือกันกับยูเออีในเรื่องวัคซีนไวรัสโคโรนา เรื่องการพลังงาน น้ำ การปกป้องสิ่งแวดล้อม และอื่น ๆ อีกมากมาย
หลังจากนี้ ตัวแทนจากอิสราเอลและยูเออี จะมาลงนามกันในข้อตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการลงทุน ท่องเที่ยว เที่ยวบินตรง ความมั่นคง โทรคมนาคม เทคโนโลยี พลังงาน สาธารณสุข วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม การเปิดสถานทูต และอื่น ๆที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
ก่อนหน้านี้อิสราเอลมีข้อตกลงสันติภาพกับ 2 ประเทศอาหรับเท่านั้นนับตั้งแต่ประกาศเอกราชในปี 2491 โดยทำกับบอียิปต์ในปี 2522 และจอร์แดนในปี 2537 ส่วนมอริเตเนียก็เคยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลปี 2542 แต่ระงับไปในปี 2552 ยูเซฟ อัล โอไตบา เอกอัครราชทูตยูเออีประจำสหรัฐกล่าวว่าข้อตกลงนี้ เป็นชัยชนะทั้งสำหรับการทูต และสำหรับภูมิภาค เพราะมันลดความตึงเครียดลง และสร้างพลังใหม่ ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลง
ฝ่ายปาเลสไตน์ออกมาประนาม ในเรื่องที่ยูเออีไปแอบตกลงอย่างลับ ๆ กับอิสราเอล โดยบอกว่างานนี้เหมือนกับปาเลสไตน์ถูกแทงข้างหลัง และชาติอาหรับควรรวมพลังกันปฏิเสธเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ครั้งนี้
กลุ่มฮามาส-ต่อต้านอิสราเอล ประณามว่าเป็นการเดินหน้าแผนรุกรานมุสลิมของพวกไซออนนิสต์ ไม่เป็นผลดีกับประชาชนมุสลิม
ด้านนายอันวาร์ การ์กัช รัฐมนตรีต่างประเทศยูเออีมองว่าการยอมรับอิสราเอลเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการหยุดระเบิดเวลาของการผนวกดินแดนในเขตตั้งถิ่นฐานชาวยิวในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ” หุบเขาจอร์แดน “ในเวสต์แบ็งค์ ทางยูเออีมองว่านี่เป็นการหยุดการผนวกดินแดน ไม่ใช่แค่การระงับการผนวกดินแดน ในส่วนของเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้น ยูเออีคาดหวังว่าจะเจออยู่แล้วเพราะภูมิภาคนี้ถูกแบ่งเป็นขั้วกันอย่างมาก ก็เลยเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้มามาก
จาเหร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยและที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์บอกว่า เขาหวังว่าอิสราเอลกับยูเออีจะมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว และสหรัฐก็จะเริ่มหารือกับประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องอิสราเอล
https://www.bbc.com/news/world-middle-east-53770859
https://www.aljazeera.com/news/2020/08/world-reacted-uae-israel-normalising-diplomatic-ties-200813152921879.html