บช.น.กังวลม็อบยังไม่ขอจัดชุมนุมแยกลาดพร้าว หวั่นลอบนำอาวุธเข้าพื้นที่ ซ้ำรอยเหตุSCB

2199

จากที่ สตช.ได้ส่งตำรวจควบคุมฝูงชน 3 กองร้อย ดูแลการชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว เย็นนี้ พร้อมแนะประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ขณะจนท.เผยม็อบยังไม่ขออนุญาต หวั่นนำอาวุธเข้าพื้นที่ ซ้ำรอยเหตุ 25 พ.ย.63

ทั้งนี้ พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงกรณีการดูแลความสงบเรียบร้อย หลังกลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าว ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตรับผิดชอบของตำรวจ สน.พหลโยธิน เบื้องต้นได้จัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนชุดละ 3 กองร้อย สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน 3 ผลัด ประกอบด้วย กองร้อยน้ำหวาน 1 กองร้อย และตำรวจจราจร เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

ส่วนวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) มีการชุมนุมที่ห้างอิมพีเรียลสำโรง อยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.สำโรงเหนือ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังแยกบางนา เป็นพื้นที่ของสน.บางนา และวันที่ 29 พฤศจิกายน มีการประกาศรวมตัวกันที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ในพื้นที่ของ สน.โชคชัย ซึ่งตลอดทั้ง 3 วัน กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ได้แจ้งยื่นขอชุมนุมในสาธารณะกับเจ้าหน้าที่

ขณะที่ความคืบหน้าเหตุการณ์การ์ดอาชีวะของกลุ่มคณะราษฎร ก่อเหตุใช้อาวุธปืนและระเบิดหลังการชุมนุมนั้น พลตำรวจตรีปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวชายขว้างวัตุคล้ายระเบิด ที่ปรากฎในคลิป แต่ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับ ข้อหา มีหรือครอบครองวัตถุระเบิด

อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรีปิยะ ยอมรับ รู้สึกกังวลว่าการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าววันนี้ หากยังไม่มีการแจ้งขอเจ้าหน้าที่จัดการชุมนุมตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถตั้งจุดคัดกรอง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมได้ และเกรงว่าอาจเป็นช่องโหว่ให้ผู้ชุมนุมบางกลุ่มนำอาวุธ หรือ สิ่งผิดกฎหมาย เข้าในพื้นที่ จนเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย วันที่ 25 พฤศจิกายน

ด้าน พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงแผนการจัดการจราจร วันนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณห้าแยกลาดพร้าวตั้งแต่เวลา 14:00 น. เป็นต้นไป พร้อมยืนยันตำรวจยังเปิดการจราจรตามปกติ เว้นแต่กลุ่มผู้ชุมนุมจะลงไปกีดขวางพื้นผิวการจราจร

โดยเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ถนนพหลโยธินขาออก ตั้งแต่แยกกำแพงเพชร ถึง แยกรัชโยธิน / ถนนพหลโยธินขาเข้า ตั้งแต่ ห้าแยกลาดพร้าว ถึง แยกรัชโยธิน / ถนนลาดพร้าว ตั้งแต่ แยกรัชดาลาดพร้าว ถึง ห้าแยกลาดพร้าว / ถนนวิภาวดี ขาเข้า ช่องคู่ขนาน บริเวณถนนหอวัง ถึง ถนนห้าแยกลาดพร้าว และห้าแยกลาดพร้าว

ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนใช้งาน ได้แก่ ถนนรัชดาภิเษก / ถนนโชคชัย 4 / ถนนลาดพร้าววังหิน / ถนนเสนานิคม / ถนนสุทธิสาร / ถนนวิภาวดีฯ ในช่องทางหลัก / ถนนกำแพงเพชร 2 / ซอยโชคชัยร่วมมิตร / ซอยวิภาวดีรังสิต 3 / และทางยกระดับโทลเวย์  ซึ่งล่าสุดนั้นมวลชนจำนวนหนึ่งได้ทยอยเดินทางมายังบริเวณแยกลาดพร้าวแล้ว