สุภรณ์เปิดภาพก๊วนส.ศิวรักษ์ ธนาธร ถามวางแผนอะไรกันหรือไม่?

3980

จากที่สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักเขียนชื่อดังโดยระบุว่าไม่แปลกใจเข้าร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร เพราะมีภาพถ่ายร่วม พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ทั้งยังมีภาพของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล นั่งพูดคุยด้วย

ทั้งนี้นายสุภรณ์ ระบุว่า ตนเองเห็นภาพถ่ายจึงมีความสงสัยในเรื่องนี้ว่ามีข้อเท็จจริงค่อนข้างชัดเจน และหากบุคคลเหล่านี้ไม่ออกมาชี้แจงอาจถูกมองได้ว่าทั้งนายธนาธร นายปิยบุตร เพนกวิน และ ส.ศิวรักษ์ เป็นพวกเดียวกัน เป็นผู้ที่ร่วมวางแผนล้มสถาบันกัน และเป็นที่ปรึกษาให้กับแกนนำผู้ชุมนุมตลอดมา จนกระทั่งนายสุลักษณ์ ออกมาปราศรัยโจมตีนายกรัฐมนตรี และปราศรัยพาดพิงถึงสถาบันที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์เมื่อวันที่25 พ.ย.จึงมีความชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ว่า คนเหล่านี้วางแผนการณ์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แทบไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป

“ตนจึงเชื่อว่าความจริงได้ปรากฎชัดเจนแล้ว จึงขอให้นายธนาธร และนายปิยบุตร เปิดเผยตัวเองออกมาอยู่แถวหน้าให้ชัดเจนไปเลย อย่าทำตัวเป็นอีแอบ และกล้ายอมรับความจริงด้วยว่า ได้มีการวางแผนที่จะใช้มวลชน ก้าวล่วง จาบจ้วง บิดเบือนใส่ร้ายสถาบัน คิดล้มล้างสถาบัน ไม่ต้องเป็นอีแอบอีกต่อไป แต่ได้พึงระวังไว้ว่า ไม่มีวันที่คนไทยส่วนใหญ่จะยอมเด็ดขาดพร้อมที่จะออกมารวมพลังปกป้องสถาบันแลกด้วยชีวิต และคนไทยที่รักสถาบันมองว่า คนเหล่านี้เป็นคนเนรคุณ คนหนักแผ่นดิน ไม่สมควรอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอีกต่อไป”

ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ย.63) นายสุภรณ์ กล่าวถึงกรณี ส.ศิวรักษ์ อีกครั้งที่ออกมาโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ นายกรัฐมนตรี ว่า ส.ศิวรักษ์ แก่จนจะเข้าโลงอยู่แล้วยังออกมายุยงปลุกปั่นร่วมกับคณะราษฎร อีกนาย ส.ศิวรักษ์ ประวัติที่ผ่านมาไม่เคยจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

“ไม่รู้จักบุญคุณที่ทางสถาบันฯได้ให้โอกาส เขาเรียกคน อกตัญญูหรือคนเนรคุณต่อแผ่นดิน ไม่เคยมีจิตสำนึก ยังจะออกมาโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากจะบอกว่า นายกรัฐมนตรี นั้นมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์เป็นที่สุด ไม่เหมือนกับนาย ส.ศิวรักษ์ ที่คิดแต่จะจาบจ้วงก้าวล่วง และล้มล้างสถาบัน

ตนจึงอยากจะฝากบอกนาย ส.ศิวรักษ์ ว่าวันนี้คุณก็อายุมากแล้วแก่เกินแกงแล้ว พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว เอาเวลาไปเลี้ยงหลานอยู่บ้าน หรือเอาเวลาไปทำบุญเข้าวัดไถ่บาปจะดีกว่าที่จะเข้ามาวางแผนร่วมกับ นายธนาธร นายปิยบุตร เพนกวิน เพราะคนเหล่านี้เข้าข่ายในเรื่องของ การคิดล้มล้าง จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน อาจมีความผิดตามมาตรา 112  เหมือนกับนาย ส.ศิวรักษ์ที่เคยโดนมาแล้วในอดีต

คนไทยที่ปกป้องสถาบันรักสถาบัน รู้เห็นหมดแล้วว่าคนหน้าไหนคนพวกไหนที่บังอาจคิดร้ายต่อสถาบัน ปิดไม่มิดแล้ว พี่น้องประชาชนคนไทยจะไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน อย่างเด็ดขาด ดังนั้นคนเหล่านี้ถือว่าเป็นคนเลวที่สุด เป็นคนเนรคุณ ไม่สมควรที่จะอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอีกต่อไป

นาย ส.ศิวรักษ์ อายุมากแก่จนใกล้ลงโลงแล้ว ยังไม่มีจิตสำนึกชั่ว ดี เลว บาป บุญ คุณโทษเป็นเช่นไร คิดไม่เป็น ยิ่งอายุมากยิ่งทำตัว ไม่มีคุณค่าไม่มีราคาต่อแผ่นดิน ต่อไปคงเรียก ส.ศิวรักษ์ไม่ได้อีกแล้ว ต้องให้ฉายาใหม่ว่า ส.ศิวะเละ เละตุ้มเป๊ะที่สุด ชื่อนี้จะเหมาะสมมากกว่าครับ”  นายสุภรณ์ กล่าว