จากกรณีที่เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.63 หลังจากที่มีการประกาศยุติการชุมนุม ทางด้านกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังแยกย้ายกันอยู่ บริเวณถนนรัชดาภิเษก (ขาออก) ฝั่งตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (SCB) ได้มีเสียงดังคล้ายปืนดัง 4 นัด พร้อมกับมีการปาระเบิดทำมือ
โดยเสียงดังมาจากแนวกลุ่มการ์ดม็อบ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย จากนั้นทางด้านของ เพจเฟซบุ๊กฟันเฟืองธนบุรี – Gear Of Red Thonburi ซึ่งกำลังถูกจับตามองว่าเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุความรุนแรงดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว
ต่อมามีรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยทางด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงเหตุหลังการยุติการชุมนุมบริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน แล้วมีเหตุวุ่นวายเกิดเสียงระเบิด และเสียงปืน เป็นให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บว่า จากที่ได้รับรายงานจากสน.พหลโยธิน เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากที่ผู้ชุมนุมได้มีการเลิกชุมนุมแล้ว ได้มีการทะเลาะวิวาทได้มีการโยนประทัด หรือวัสดุอย่างหนึ่งอย่างใดใส่กัน
จากนั้นกลุ่มผู้ที่ทะเลาะวิวาทกัน 2 กลุ่มได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลพระราม 9 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปาก ทราบว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาตั้งแต่ฝั่ง SCB หลังจากที่มีการเลิกชุมนุมได้มีการมาถกเถียงกันต่อแล้วมีการทะเลาะวิวาทกัน ในเบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎร ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ดที่มาจากเทคนิคมีนบุรี หรืออาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค และผู้บาดเจ็บมาจาอาชีวะปทุม ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ดด้วยกันที่ทะเลาะกัน อย่างไรก็ตามมีภาพจากกล้องวงจรปิดและคลิปจากผู้สื่อข่าวและประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นบันทึกภาพไว้ ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎรแล้วทะเลาะกันด้วยเรื่องงานใน SCB ไม่ได้มีกลุ่มอื่นเข้ามาแฝงตัวแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โฆษกบช.น.แถลงด่วน มีหลักฐานยืนยันชัด “กลุ่มการ์ดคณะราษฎร” ทะเลาะกันเอง
ล่าสุดทางด้านพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล(ผบก.สส.บช.น.) และ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) พร้อมตำรวจ สน.พหลโยธิน ประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุยิงการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร บริเวณแยกรัชโยธิน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ นายวันชัย อารีย์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันเทคนิคปทุมธานี และนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค หลังประกาศยุติการชุมนุมหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ช่วงค่ำวานนี้ (25 พ.ย.)
โดยพล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนและสอบสวนพยาน 3-4 ปาก เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ มีความชัดเจนว่าตำรวจจะขอศาลออกหมายจับนายภาสพงศ์ ผู้ยิงที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายหลังก่อเหตุ
เบื้องต้นเป็นความผิดฐานครอบครองอาวุธปืน เนื่องจากมีหลักฐานตั้งแต่ก่อนและขณะเกิดเหตุทั้งภาพกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลชัดเจน ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้นเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 เบื้องต้นพบว่ามีทะเบียน แต่กำลังตรวจสอบเรื่องการครอบครองและลายพิมพ์นิ้วมือ รวมถึงคราบเขม่าควัน
จากการสอบปากคำทราบว่าทั้งคู่เป็นการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร แต่ทั้งคู่ก็พ้นสภาพนักศึกษาอาชีวะทั้ง 2 สถาบัน ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปัญหามาจากเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องการชุมนุม เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังยุติการชุมนุม มีฝ่ายหนึ่งเริ่มขว้างระเบิดปิงปองก่อน แล้วพากันวิ่งหลบหนี จนมีอีกกลุ่มวิ่งไล่ตาม และคว้าอาวุธปืนมายิง ทั้งนี้ ในเวลา 17.00น. จะมีการแถลงข่าวลำดับเหตุการณ์อีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ยืนยันว่าตำรวจไม่มีความกังวลเพราะยึดตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีมือที่สาม แม้การ์ดจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องทะเลาะกันเอง ก็ต้องสอบปากคำพยานเหตุการณ์อย่างละเอียดถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง เพราะหลังเกิดเหตุต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันหลบหนี ตอนนี้ยังไม่ได้สอบคนเจ็บทั้ง 2 ราย เพราะแพทย์ไม่อนุญาต
อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้นำอาวุธเข้าพื้นที่ชุมนุมนั้น ตำรวจก็ต้องขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุมด้วยการแสดงความบริสุทธิ์ ส่วนตำรวจเองก็จะเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลประชาชนทุกฝ่ายที่ชุมนุม แต่คงไม่สามารถตั้งด่านตรวจค้นได้อย่างทั่วถึง แต่จะหารือกับแกนนำผู้ชุมนุมได้หรือไม่ คงไม่มีโอกาสเพราะหลายคนมีคดีติดตัวกันอยู่แล้ว