ทองขาขี้น?!! ระวังเก็งกำไรขาลง!!? แม้ลงทุนคึก ขาใหญ่-รุ่นใหม่เปิดบัญชี 3 เท่า ทำส่งออกทองเพิ่ม 136% มูลค่า 2.35 แสนล้านบาท!!

1591

กระแสราคาทองขาขึ้นปลุกการลงทุนคึกคัก  ผู้ค้ารายใหญ่ชี้เกิดปรากฏการณ์ “ขายทองรูปพรรณ-ลงทุนทองแท่ง” ลูกค้าขาใหญ่-คนรุ่นใหม่แห่เปิดบัญชีลงทุนเพิ่ม 3 เท่า  จับตาวัคซีนจุดเปลี่ยน ทำราคาชะลอตัวได้ เตือนนักลงทุนราคาพุ่งสูง-เสี่ยงถูกแรงเทขาย นักวิเคราะห์เตือนเก็งกำไรขาลง คนแห่ขายดันยอดส่งออกทอง 6 เดือนแตะ 2.5 แสนล้าน เพิ่ม 136%

ราคาทองคำได้พุ่งทำสถิติสูงสุด 2,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และราคาทองในประเทศ 30,400 บาท(7 ส.ค. 2563) และวันที่11-12 ส.ค.ที่ผ่านมาราคาทองคำก็ผันผวนรุนแรง และปรับลงต่ำกว่า 2,000 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยเมื่อ 12ส.ค. ลงมาต่ำสุดที่ 1,865 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และปรับขึ้นอยู่ที่ 1,929 เหรียญสหรัฐต่ออนซ์ ขณะที่ราคาทองในประเทศก็ผันผวนปรับขึ้น-ลงทั้งวันถึง 42 รอบ ทั้งวันราคาทองลงมา850 บาท ทำให้ทองคำแท่งขายออกล่าสุดอยู่ที่บาทละ 28,400 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกบาทละ 28,900 บาท

ราคาทองคําวันนี้ราคาทองวันนี้ล่าสุด(13/08/2563):ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5% รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 28,250.00 28,350.00
ทองรูปพรรณ 27,742.80 28,850.00
วันนี้ ทองลง-50 ทองขึ้น 50
13 สิงหาคม 2563 เวลา 12:21 น. (ครั้งที่ 6)

 

กลุ่มฮั่วเซ่งเฮงเผย-การลงทุนทองยังคึกคัก-แต่มีความเสี่ยงอยู่

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง หนึ่งในผู้ค้าและผู้ส่งออกทองรายใหญ่ของไทยเปิดเผยว่า  “ราคาทองคำโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่  2,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และราคาทองคำในประเทศ 30,400 บาทต่อบาททองคำ ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองในประเทศบวกขึ้นมาประมาณ 8,800 บาท หรือ 40% ถือว่าสูงมาก ส่งผลให้ความสนใจในการลงทุนทองคำคึกคักมากขึ้น การเข้าคิวมี 2 กลุ่ม ทองรูปพรรณส่วนใหญ่นำมาขาย เพื่อเก็บเงินสดไว้ ส่วนทองคำแท่งรอราคาลงจะเข้ามาซื้อ  แสดงว่านักลงทุนมองกระแสเป็นบวก มีโอกาสทำกำไรจึงยังสนใจคึกคัก  แม้ว่าทองคำจะเป็น safe haven ซึ่งตั้งแต่ต้นปีราคาขึ้นมา 40% ก็พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่า safe หรือเปล่า แต่เมื่อบวกขึ้นมา 40% ผมก็ว่ามันก็มีความสี่ยงเหมือนกัน นายธนรัชค์ กล่าว

ปีนี้กองทุน ETF ถือว่าเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลก ซื้อติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยมีการถือครองทองคำทั้งสิ้น 3,785 ตัน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เรียกว่าราคาทองคำปีนี้ปรับขึ้นมาจากการเข้าถือทองคำของกองทุน ETF ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในต่างประเทศกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการฟื้นตัว  และหากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงต่อเนื่อง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็จะหนักขึ้น ทำให้มีเงินไหลเข้าลงทุนในกองทุนทองคำมากขึ้น

ระยะกลางยังเป็น “ขาขึ้น”แต่ควรระวัง

นายธนรัชต์กล่าวว่า “แม้ว่าราคาทองจะย่อตัวลงบ้าง แต่เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดี ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ ยังมีมาตรการอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบเพื่อพยุงภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนก็ตึงเครียด มีแนวโน้มเป็นลบเพิ่มเข้าไปอีก ถ้ามีวัคซีนโควิด-19 ออกมา ราคาอาจจะปรับลงมา

ร้านขายทอง ตจว. พากันขนทองมาขาย ชาวบ้านขอเก็บเงินสด

นายธนรัชต์กล่าวว่า ในช่วงที่ราคาทองขาขึ้นทำให้มีประชาชนแห่นำทองเก็บออกมาขายจำนวนมาก สิ่งสำคัญของร้านทองคือ ต้องเตรียม “เงินสด” สภาพคล่องแต่ละวันที่เพิ่มขึ้น  “ปริมาณทองคำที่ประชาชนนำออกมาขายนั้นต้องบอกว่า ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ปริมาณเยอะกว่าช่วงนี้ เพราะว่าปี 2554 ราคาทองอยู่ที่ 1,920 เหรียญ ซึ่งมีคนติดดอยอยู่เยอะ พอราคาพุ่งขึ้นมาพอมีกำไร ประกอบกับช่วงนั้น คนกำลังวิตกเรื่องการระบาดโควิด-19 ก็แห่เอาทองคำออกมาขายเก็บเงินสดสำรองไว้ แต่พอเห็นว่าราคาทองคำเหมือนจะไปต่อก็เริ่มกลับเข้ามาซื้ออีก วอลุ่มการซื้อขายทองคำคึกคักตั้งแต่เดือน มี.ค. จนถึงตอนนี้”

ตลาดทองคำแท่ง-นักลงทุนรุ่นใหม่แห่เปิดบัญชีเพิ่ม 3 เท่า

ในช่วงที่ราคาทองขาขึ้นต่อเนื่องคือ ตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นราว 40% ด้วยผลตอบแทนที่สูง ก็ทำให้มีนักลงทุนสนใจลงทุนทองมากขึ้น จากเดิมที่จะเป็นการลงทุนของคนรุ่นเก่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ก็สนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น โดยในส่วนของฮั่วเซ่งเฮงก็พบว่ามีลูกค้ามาเปิดบัญชีลงทุน (ทองแท่ง) เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่าตัว ส่วนหนึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพราะผู้ประกอบการรายอื่นที่มีร้านเฉพาะในห้างช่วงล็อกดาวน์เปิดให้บริการไม่ได้  ทำให้ลูกค้าก็อาจจะมาเปิดบัญชีซื้อขายกับทางฮั่วเซ่งเฮงมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีบัญชีซื้อขายทองมากกว่า 5 หมื่นบัญชี

“ช่วงราคาทองคำเป็นขาขึ้น นักลงทุนก็จะแอ็กทีฟเยอะ จากเดิมที่เล่น 1 บาท 5 บาท พอช่วงที่ราคาขึ้นต่อเนื่องทุกวันก็จัดเต็ม มีเท่าไหร่ก็ใส่เข้าไป อารมณ์จะเป็นแบบนั้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่เล่นเก็งกำไรสั้น ๆ เข้ามาเยอะ”

ขาใหญ่โยกเงินลงทุนทองคำ-เก็งกำไร, เก็บระยะยาว

นอกจากนี้ก็นักลงทุนรายใหญ่ทั้งประเภทบุคคลและนิติบุคคล ที่มีการโยกเงินมาลงทุนในทองคำแบบสั่งซื้อทีละ 50 ล้าน-100 ล้าน มีเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ที่ราคาทองเป็นขาขึ้นช่วงที่มีโควิด-19 เพราะคงคิดว่าตอนนี้จะไปลงทุนซื้อหุ้นก็ไม่รู้จะไปลงทุนที่ไหน ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่เมื่อซื้อแล้วจะรับทองคำกลับไปด้วย ไม่ได้ฝากไว้ที่ร้านเหมือนนักลงทุนรายย่อย ซึ่งก็สะท้อนว่ารายใหญ่ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนซื้อเก็บยาว ๆ ไม่ได้ซื้อ ๆ ขาย ๆ

“รวมทั้งสัญญาการซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (TFEX) พบว่า ปริมาณสัญญาซื้อขาย gold online futures คนเทรดเยอะขึ้นเฉลี่ย 6-7 ล้านสัญญาต่อเดือน เพราะวันที่ Bullish ราคาขึ้นก็จะมีคนจัดเต็ม คือจะเล่นเยอะในวันที่ราคามันวิ่งไม่หยุด เพราะเก็งกำไรโดยช่วงปี”63 เฉลี่ยอยู่ที่กว่า 43,000 สัญญาต่อวัน จากปี”62 เฉลี่ยซื้อขายอยู่ที่ 30,000 สัญญาต่อวัน”  ในช่วงราคาทองขาขึ้น ทำให้มีปริมาณทองคำที่ขายเข้ามาที่ร้านในปริมาณมาก ดังนั้นจะมีการส่งออกไปโรงหลอมและขายให้กับลูกค้าต่างประเทศทุกวัน ตั้งแต่หลัก 100 กิโลกรัม ไปจนถึง 1 ตัน แต่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้กระบวนการทำงานค่อนข้างลำบาก การขนส่งโลจิสติกส์ไม่คล่องตัว

ส่งออกทองโตกว่า 136% แต่ซัพพลายเชนยังลำบากเพราะโควิด-19 ยังอยู่

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์พบว่ามูลค่าส่งออกทองคำในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2563) มูลค่า 246,047.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 136.73% และพบว่า 6 เดือนแรกปีนี้ มีการส่งออกทองคำมากกว่าปี 2562 ทั้งปีมีการส่งออกทองคำ 235,558.18 ล้านบาท  สำหรับ 3 ผู้ส่งออกทองคำรายใหญ่ของประเทศก็คือ ฮั่วเซ่งเฮง, บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS Gold (แม่ทองสุก) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ราคาทองคำปรับขึ้น พบว่านักลงทุนเข้ามาซื้อขายทองคำมากขึ้น ทั้งผ่านช่องทางปกติและช่องทางออนไลน์ ในส่วนช่องทางออนไลน์มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 500 กิโลกรัม ถึง 1 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณ 30% ขณะที่จำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นเช่นกันประมาณ 5-10% จากสิ้นปี 2562 มาอยู่ที่ 2,000 กว่าราย “ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าที่ซื้อขายทองคำออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 60% เทียบกับช่องทางปกติอยู่ที่ 40% โดยการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็นซื้อขายทองคำแท่งเพื่อลงทุน” สำหรับสัญญาซื้อขาย gold online futures ปรับเพิ่มขึ้น 30% เฉลี่ย 40,000-50,000 สัญญาต่อวัน และจำนวนบัญชีลูกค้าปรับขึ้น 10-15% จากสิ้นปี 2562 อยู่ประมาณ 1,000 กว่าราย

นักวิเคราะห์เตือนเทรนด์เก็งกำไรขาลง-ระวังหน่อย!

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า หลังราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นในปีนี้ พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่นำทองคำมาขายมากกว่าซื้อ ส่งผลให้ปริมาณซื้อขายเบาบางกว่าช่วงที่ราคาทองคำ gold spot อยู่ในระดับต่ำ “คาดว่านักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น เนื่องจากมีประสบการณ์ปี 2554 ราคาทองคำปรับขึ้นค่อนข้างแรง แต่ก็ปรับลงรุนแรงเช่นกัน ในส่วน gold online futures ปริมาณสัญญาซื้อขายก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่วอลุ่มอาจไม่มาก” 

ทองคำยังน่าลงทุนแต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากเพราะ ทองคำอ่อนไหวกับสถานการณ์เสมอ  นักวิเคราห์และผู้ค้าทองยังมองว่าระยะยาวราคาทองคำยังถือว่าอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ทำให้มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนและเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น แต่มีความเสี่ยงแฝงอยู่

สัญญาณเตือนมาถึงแล้ว เมื่อปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศตุัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น ทั้งสภาวะการว่างงานชลอตัว รัฐบาลจ้างงานมากขึ้นภาคนอกเกษตร, มีข่าวดีเรื่องวีคซีนโควิด-19 จากทั่วโลก รัสเซียจดทะเบียนแล้ว และสหรัฐ วีคซีนใกล้เป็นจริง แบบรายวัน จะสังเกตุเห็นว่า เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขั้น-ราคาน้ำมันดิบขยับ (แม้ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะประกาศขาดทุน) และผลกำไรกระเตื้อง ทำราคาทองตกแบบดิ่ง นั้นหมายถึง ก่อนลงทุนต้องติดตามข่าวสารต่างประเทศเกี่ยวกับมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐ รัสเซีย จีน และตะวันออกกลาง เกิดอะไรขึ้นทั้งดีและร้าย ส่งผลกับราคาทองคำในที่สุด