จากที่มีรายงานวันที่ 24 พ.ย. 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะเดินทางเข้าพบตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาตามผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติดำเนินอาญาคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด
โดย นายธนาธร ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าหากยังจำกันได้ ช่วงสัปดาห์นี้เป็นเวลาครบ 1 ปีพอดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีหุ้นวีลัค สั่งให้ผมหลุดออกจากการเป็น ส.ส.
จนถึงตอนนี้ ดูท่า กกต. จะเดินหน้าเอาผิดทางอาญากับผมต่อไปอย่างเต็มสูบ ในข้อหาว่า “รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธนาธรรับข้อหาตร.ทุ่งสองห้องคดีอาญาถือหุ้นสื่อปลุกระดมทันที!ขอปชช.อย่าหยุดฝัน
ล่าสุด ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) สน.ดอนเมือง นายธนาธร ซึ่งเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาตามผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติดำเนินอาญาคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเปลี่ยนจาก สน.ทุ่งสองห้อง มาเป็นที่ บก.น.2
โดย นายธนาธร กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย. 2563 ที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ว่า ขอเรียนให้ประชาชน ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงใช้ขันติธรรม ลองฟังสิ่งที่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชนพูด การที่พวกเขามาที่สำนักงานทรัพย์สินฯ เพราะข้อเสนอไม่ได้รับการรับฟัง อย่าลืมว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ มีประชาชนร่วมลงชื่อเกือบแสนคน แต่เสียงของเขาไม่ถูกรับฟัง ไม่ถูกนำไปประกอบการพิจารณา
“ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกโกรธ ทำไมต้องขยับเส้นในการชุมนุม ในการพูด เพราะเสียงของพวกเขาที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก เรียกร้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ไม่ได้รับการตอบสนอง”
ทั้งนี้ นายธนาธร ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่เชื่อว่าจะบานปลาย เพราะไม่เชื่อว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมีต้นทุนทางสังคม ต้นทุนทางการเมืองที่จะทำรัฐประหาร เพราะปี 2557 ได้ใช้ต้นทุนไปหมดแล้ว เราเห็นชัดว่ารอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง เพื่อเป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร ผมเชื่อว่านักเรียน นักศึกษา ที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกนั้น มีวุฒิภาวะพอ และได้แสดงออกทุกครั้งที่ผ่านมาว่าการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงไม่เป็นผล
