“ไฟว์อายส์” (สหรัฐ-อังกฤษ-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์-แคนาดา) พันธมิตร 5 ชาติเจ้าอาณานิคมที่เคยครองและเกี่ยวข้องกับ “ฮ่องกง” ในฐานะไฟแนนซ์เชียลฮับมาก่อน รับไม่ได้จีนถอดถอนสถานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรและวิชาชีพทนาย ฐานไม่รักชาติ 4 คน เพราะร่วมกันรณรงค์ให้ต่างชาติคว่ำบาตรจีนและฮ่องกง ไฟว์อายส์ขู่คว่ำบาตรจีน แต่จีนตอบโต้ไม่หวั่น ยืนยันใช้กฎหมายบนฐานความจริงและคือกิจการภายใน เป็นอธิปไตยของชาติที่ใครก็ไม่อาจล่วงละเมิดได้
ปฏิบัติการจุ้นข้ามโลกของมหาอำนาจ
วันที่ 23 พ.ย.2563: พันธมิตรไฟว์อายส์เตือนจีนหยุดคว่ำบาตรนักกฎหมายประชาธิปไตยฮ่องกงและชี้ว่าเป็นการปิดปากการวิพากษ์วิจารณ์ของคนเห็นต่างโดยสมบูรณ์ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม ทั้งสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์และแคนาดาได้ออกแถลงการณ์ร่วมตำหนิและเตือนจีน ให้หยุดคุกคามนักกฎหมายประชาธิปไตยในฮ่องกง
“เราขอกระตุ้นเตือนให้ผู้มีอำนาจจากรัฐบาลปักกิ่ง เลิกคุกคามนักกฎหมายประชาธิปไตยในฮ่องกง ให้ล้มเลิกการถอดถอนนักกฎหมายที่ได้รับการเลือกตั้ง และยกเลิกการคว่ำบาตรวิชาชีพทหายความของเขา”
ตำรวจในฮ่องกงกล่าวว่า ได้จับกุมนักกฎหมาย 3 คน ระหว่างเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ประกาศใช้
แต่จีนปฏิเสธ ไม่ได้ทำการควบคุมการแสดงออกด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชนฮ่องกง แต่ต้องใช้กฎหมายที่เข้มแข็ง ควบคุมวิกฤตที่เกิดจากการประท้วงบานปลายข้ามปี ตั้งแต่มิถนายน 2562-2563 ซึ่งได้ทำลายฮ่องกงทางกายภาพ และทำลายเศรษฐกิจของฮ่องกงอย่างที่สุด
ใหญ่แค่ไหนจีนไม่กลัว-เป็นเรื่องกิจการภายใน
สหราชาอาณาจักรเป็นหัวหอกยื่นข้อเสนอเปิดทางให้พลเมืองฮ่องกงราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 7.5 ล้านคน ได้มีโอกาสเป็นพลเมืองอังกฤษ ขณะที่ ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหรัฐ อาจเสนอการลี้ภัยในรูปแบบต่างๆ ให้เช่นกัน
ความเคลื่อนไหวของ 5 ประเทศที่เรียกว่า “พันธมิตรไฟว์อายส์” ที่อ้างว่า เป็นการช่วยเหลือพลเมืองจากเมืองที่เคยมีเสรีภาพให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของรัฐตำรวจ
ครั้งที่จีนออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เมื่อ 1กรกฎาคม 2563 ประเทศตะวันตก 27 ประเทศเรียกร้องให้จีนคิดใหม่ เพราะกฎหมายดังกล่าวบั่นทอนเสรีภาพฮ่องกง และอ้างว่ากฎหมายฉบับนี้ีออกมาโดยที่ประชาชน ส.ส. หรือฝ่ายตุลาการฮ่องกงไม่ได้มีส่วนร่วม
ขณะที่อีก 53 ประเทศ นำโดยคิวบา พันธมิตรจีนผู้ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์เหมือนกัน ประกาศสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงในการประชุมที่เจนีวา
แคร์รี หล่ำ ผู้นำฮ่องกงที่หนุนปักกิ่ง กล่าวถึงกฎหมายความมั่นคงเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ว่า“เป็นพัฒนาการสำคัญที่สุด” นับตั้งแต่กลับคืนมาสู่จีน ทางปักกิ่งบอกว่า กฎหมายนี้เหมือน “ดาบ” ทำให้พวกฝ่าฝืนกฎหมายต้องคิดหนัก หลังจากเกิดเหตุประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยบานปลายเป็นความรุนแรงมาตลอด 1 ปี มีแต่ความเสียหายในทุกด้าน
24 พฤศจิกายน 2563 :จาง เสี่ยวหมิง จากสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊า สภาแห่งรัฐจีน จัดแถลงข่าวตอบโต้ การที่ต่างชาติขู่จะคว่ำบาตรนั้นเป็น “ตรรกะของอันธพาล” ถ้าปักกิ่งอยากเลิก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ก็ใช้กฎหมายจีนแผ่นดินใหญ่ได้ไม่ยาก “คุณเกี่ยวข้องอะไรด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณเลย” จางกล่าวพร้อมยืนยันว่า ทางการจีนได้ปรึกษาคนในสังคมฮ่องกงมากมายทุกหมู่เหล่าแล้ว
เจ้า หลี่เจียง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวตอบโต้ดุเดือดว่า
“ไม่ว่าใครจะมี 5 ดวงตาหรือ 10 ดวงตา ถ้าเข้ามาลุกล้ำอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ โปรดระวังอาจถูกแทงตาบอดได้” “ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ประชากรฮ่องกงควรภักดีต่อแผ่นดินแม่เป็นเรื่องที่ถูกต้องและเป็นเช่นนี้ทุกประเทศทั่วโลกมิใช่หรือ” เจ้ากล่าว
นักกฎหมายทั้งสี่คนไม่ได้รับการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป พวกเขาถูกดำเนินคดีเพราะเรียกร้องให้ต่างชาติคว่ำบาตรประเทศจีนและฮ่องกง