TikTok เล็งฟ้องรัฐบาลสหรัฐในสัปดาห์หน้า ภายหลังจากที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อแบน TikTok และ WeChat ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นชื่อดังของจีน ผู้เชี่ยวชาญฟันธง รัฐบาลสหรัฐเผยตัวตน รีดไถเอกชนตามใจชอบใครจะกล้าทำธุรกิจด้วย ขณะที่ไมโครซอฟท์ดี้ด้าขอฮุบทั้งโลก ทวิตเตอร์โผล่ขอแจมซื้อแค่ในสหรัฐ
เนชั่นแนล พับลิค เรดิโอ รายงานว่า TikTokเตรียมยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐที่ศาลแคลิฟอร์เนีย อย่างเร็วที่สุดในวันอังคารที่จะถึงนี้ ทั้งยังชี้แจงว่า การดำเนินการของทรัมป์ขัดกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทรัมป์ไม่ได้เปิดโอกาสให้บริษัทได้ชี้แจง และการดำเนินการโดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงของสหรัฐก็ถือเป็นเรื่องที่ไร้ซึ่งข้อมูลสนับสนุน นอกจากนี้บริษทไบท์แดนซ์-TikTok ทำธุรกิจกับสหรัฐเพื่อคนสหรัฐ และไม่เคยละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด ท่ามกลางการแข่งขันและการถูกบีบคั้นกดดัน
การลงนามคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.) ตามเวลาสหรัฐ หลังจากที่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้เรียกร้องให้ทำการแบนแอพพลิเคชันต่างๆ ของจีนจากแพลตฟอร์มแอพสโตร์ของบริษัทสหรัฐ โดยระบุว่าแอพของจีนไม่น่าไว้ใจ และเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้ทำการแบนบริษัทจีนบางรายด้วยเหตุผลด้านสิทธิมนุษยชนด้วย
ศาสตราจารย์เว่ย ซ่างจิ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์จากบัณฑิตวิทยาลัยธุรกิจ และวิทยาลัยการต่างประเทศและการสาธารณะ มหาวิทยลัยโคลัมเบีย เปิดเผยผ่านองค์กรสื่อไม่แสวงหากำไรชื่อ โปรเจกต์ ซินดิเคต (Project Syndicate) เมื่อวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.)ว่า การบังคับ TikTok ขายกิจการในราคาถูกให้กับผู้ซื้ออเมริกัน จะเป็นอันตรายกับบริษัทอเมริกันที่อยู่ในตลาดจีนและมีอยู่หลายราย ถ้าจีนดำเนินการตอบโต้แบบเดียวกับที่สหรัฐทำ
TikTok ได้รับความนิยมจากทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เพราะเน้นบันเทิงและผู้คนต้องอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ต้องอยู่บ้านมากขึ้นทั่วโลก ได้รับการโหลดมากกว่า 1 พันล้านครั้ง และเฉพาะในสหรัฐ ดาวน์โหลดมากกว่า 175 ล้านครั้ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งพิเศษห้ามบริษัทในสหรัฐฯทำธุนกรรมใดๆกับบริษัทไบต์แดนซ์(ByteDance) บริษัทแม่ของTikTok และจะต่องขายกิจการให้บริษัทสหรัฐฯภายใน 45 วัน รวมถึง แอพพลิเคชั่น WeChat ของบริษัทเทนเซนต์ ซึ่งเป็นแอพฯส่งข้อความและสื่อสังคม ทั้งสองเป็นแอพฯของจีน
การกระทำของสหรัฐฯครั้งนี้แม้สำเร็จก็เป็นการได้ผลประโยชน์ระยะสั้น เสี่ยงกับผลระยะยาวต่อสหรัฐเอง ทั้งเป็นการทำลายกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ ที่สหรัฐโฆษณาว่าตนเป็นต้นแบบแห่งสิทธิเสรีภาพ
“ท้ายที่สุดแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เมื่อรัฐบาลสหรัฐสามารถมองว่าตนสามารถรีดไถองค์กรเอกชนได้ตามใจชอบ” ศจ.เว่ย ซ่างจิ้นกล่าว
ล่าสุด บริษัทอเมริกันฯ 2 รายยื่นความจำนงค์ขอซื้อกิจการ ไบแดนซ์-TikTok
ไมโครซอฟท์ปากมัน เพิ่มข้อเรียกร้องขอซื้อกิจการบริษัทไบแดนซ์ทั้งหมด ในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ทวิตเตอร์แจ้งความจำนงค์ขอเจรจาซื้อกิจการจากไบแดนซ์-TikTok ในสหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่นักวิเคราะห์หลายคนในสหรัฐเองมองว่า แม้ทวิตเตอร์จะมีทรัพย์สินไม่เท่าไมโครซอฟท์ แต่ความใกล้ชิด, ท่าที วิธีการทางธุรกิจอาจได้รับความสนใจจากไบแดนซ์มากกว่า รายใหญ่ที่ต้องการรวบหมดอย่างไมโครซอฟท์ก็เป็นได้
…………………………………………………………..
https://nypost.com/2020/08/09/twitter-eyeing-purchase-of-tiktoks-us-operations/https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/chinese-state-media-slams-madness-of-us-tech-purge