จากที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความรุนแรงในที่ชุมนุมแยกเกียกกาย ถนนทหาร โดยทราบว่ามีชายสวมใส่เสื้อกันฝนสีชมพู เป็นการ์ดของกลุ่มราษฎร และเป็นผู้นำอาวุธปืนยิงใส่กลุ่มประชาชนที่ปักหลักชุมนุมที่ถนนทหารก่อน
“ส่วนจะมีการฝึกฝนมาหรือไม่อยู่ระหว่างการสืบสวนรวมทั้งหลักฐานปลอกกระสุนที่ตกในที่เกิดเหตุ โดยพนักงานสอบสวนจะเก็บพยานหลักฐานดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การชุมนุมโดยมิชอบ และร่วมกันตั้งแต่ 10 คนเป็นต้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง รวมถึงทำร้ายร่างกาย และทำให้สูญเสียทรัพย์สิน”
ขณะที่ นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ได้ออกมาโพสต์ข้อความโดยนำภาพประกอบของชายเสื้อกันฝนสีชมพูและอ้างว่าชายคนดังกล่าวเล็งปืนใส่คนเสื้อเหลืองโดยเป็นการสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายม็อบคณะราษฏร
ตำรวจต้องไปตามจับตัวชายที่ใส่เสื้อสีชมพูมาสอบสวนและลงโทษตามกฎหมายให้ได้ เนื่องจากมีภาพและวีดีโอปรากฎชัดว่าชายคนดังกล่าว มีการเล็งอาวุธปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง มิฉะนั้นจะทำให้เชื่อว่าตำรวจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิด
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 บริเวณแยกเกียกกาย พบหลักฐานที่เชื่อว่าชายที่ใส่เสื้อสีชมพู อาจจะเป็นผู้ชุมนุมคนหนึ่งของฝ่ายเสื้อเหลือง เพราะมีภาพเดินปะปนอยู่ในกลุ่มเสื้อเหลือง แต่เวลาจะสร้างสถานการณ์เพื่อโยนความผิดให้ม็อบคณะราษฎร เขาก็จะข้ามมาอยู่ฝั่งคณะราษฎร แล้วทำท่าชักปืนเล็งใส่ไปทางกลุ่มเสื้อเหลือง เพื่อทำให้คนที่เห็นภาพดังกล่าว เข้าใจว่ากลุ่มคณะราษฎรใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเสื้อเหลือง แต่มีข้อพิรุธที่จับผิดได้คือ
1.ไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงปืนจากการยิงของชายคนนี้ 2.ในระยะใกล้ๆเพียงแค่นี้ หากมีการยิงปืนจริงทำไมไม่มีเสื้อเหลืองคนใดถูกกระสุนปืนเลยสักคน 3. หากยิงปืนจริง ปืนที่ยิงโดยมีกระสุน น่าจะเห็นประกายไฟและควันแลบที่ปลายกระบอกปืนออกมาบ้าง แต่นี่ไม่มีอะไรเลย ทั้งเสียง ทั้งประกายไฟ ควัน
- ที่สำคัญหากดูในภาพและคลิปวีดีโอ ไม่ปรากฎว่ามีกลุ่มเสื้อเหลืองคนใดเกรงกลัวอาวุธปืน หรือวิ่งหลบหนีการยิงปืนจากชายที่ใส่เสื้อสีชมพูคนนี้เลย
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ชายที่ใส่เสื้อสีชมพูไม่ได้มีการยิงจริงๆ เพียงแต่ทำท่ายกปืนขึ้นมาเล็งใส่กลุ่มเสื้อเหลืองเท่านั้น แล้วถ่ายภาพถ่ายวีดีโอเอาไว้เพื่อโยนความผิด เป็นการสร้างสถานการณ์ โดยมีคนที่เตรียมมา คอยยืนถ่ายภาพอยู่ข้างหลัง เหมือนสมคบคิด วางแผนเตรียมการกันไว้ล่วงหน้า เพื่อนำไปเผยแพร่ว่ากลุ่มคณะราษฎรยิงใส่กลุ่มเสื้อเหลือง การสร้างสถานการณ์เพื่อโยนความผิดให้กับกลุ่มคณะราษฎรในครั้งนี้ถูกจับผิดได้อีกแล้ว ทำไม่เนียนเลย หลักฐานชัดเจนถึงขนาดนี้ บรรดาสลิ่มและพวกที่ออกมาปกป้องประยุทธ์ ปกป้องสถาบัน จะแก้ตัวกันอย่างไร?
ต่อมา เฟซบุ๊ก ซึ่งต้องพิสูจน์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ระบุถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้อธิบายที่มาของคลิปที่ยืนยันได้ว่า ชายเสื้อชมพูที่นายวีระอ้างเพื่อใส่ร้ายกลุ่มคนเสื้อเหลืองปกป้องสถาบัน ซึ่งมีคลิปของเพจอีจันชัดเจน
กล่าวหา ชายเสื้อชมพู ที่มีคลิปทำท่า เหมือนยิงปืน เป็นฝ่ายคนรักสถาบัน
ตรวจสอบ จากคลิปไลฟ์สด จากเพจอีจัน เป็นคนละคน
นาที 8.25 เสื้อชมพู ฝั่งคนรักสถาบัน เริ่มโผล่ออกในคลิปไลฟ์สด จากทางด้านใน ผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง
นาที 9.19 เสื้อชมพู ฝั่งคณะราษฎร63 เริ่มโผล่ออกในคลิปไลฟ์สด จากทางด้านใน ผู้ชุมนุมฝั่งคณะราษฎร
ทั้งนี้ สาเหตุที่เเอดมินไม่ทำการตัดคลิปมาเนื่องจาก เกรงว่าจะมีคนครหาว่าเเอดมินตัดต่อคลิปหรือเปล่า เเต่เเอดมินอยากจะให้เพื่อน #ไปดูคลิปไลฟ์สดในเพจอีจัน ตามลิงค์นี้เลยครับ เพราะเป็น #คลิปไลฟสดมันตัดต่อไม่ได้ครับ
ดูคลิป https://www.facebook.com/634784363349240/videos/2781747498820318/
เริ่มจากนาทีที่ 8 ที่ เสื้อชมพู ฝั่งคนรักสถาบัน โผล่มาในคลิปด้านซ้ายมือ เเละดูไปเรื่อยๆ จนถึงราวๆนาที ที่ 9.00 จะเห็น เสื้อชมพู ฝั่งคณะราษฎร63 ทางมุมขวาจอครับ
ที่มา: เฟซบุ๊ก ซึ่งต้องพิสูจน์