จากที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ร่างเสร็จลงมติชื่อสมาชิกรัฐสภาเรียงลำดับตามตัวอักษร ก่อนที่สมาชิกแต่ละคนจะขานมติว่า รับ-ไม่รับ-งดออกเสียง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละร่าง
ทั้งนี้เมื่อการลงมติผ่านไปได้ 200 คน ปรากฎว่า สมาชิกรัฐสภา ซีกรัฐบาล และส.ว. ส่วนใหญ่ ลงมติรับหลักการ ร่างที่ 1 – 2 ตามที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และส.ส.ฝ่ายค้านเสนอ และลงมติงดออกเสียงในร่างที่เหลือ ขณะที่ ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน ลงมติรับหลักการทั้ง 7 ร่าง แต่ทั้ง 5ร่างดังกล่าวมีคะแนนเสียงเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ในขณะนี้ถือว่า ไม่ได้รับความเห็นชอบในวาระรับหลักการ
ขณะที่พบว่าสมาชิกรัฐสภาบางส่วนลงมติคนละแนวทางกับพรรค เช่น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลงมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ งดออกเสียงในร่างที่1-2 และไม่รับหลักการร่าง3-7 ซึ่งเป็นการแหกมติวิปรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ อดีตแกนนำกลุ่มกปปส.ได้ลงมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ ซึ่งเป็นการแหกมติพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติรับหลักการในร่างที่ 1และ 2 ส่วนร่างที่ 3-7 งดออกเสียง
ต่อมานายชุมพล ได้โพสต์วีดีโอคลิปการประชุมรัฐสภา พร้อมข้อความถึงการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย ว่า # 16.8ล้านเสียงต้องไม่สูญเปล่า “ไม่รับทั้ง7ร่าง” ครับ
ล่าสุดวันนี้(19พ.ย.63) นายชุมพล ได้เปิดใจถึงการไม่รับร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง7บับซึ่งเป็นการสวนมติของพรรคประชาธิปัตย์เพียงคนเดียวผ่าน สำนักข่าว THE TRUTH สถาบันทิศทางไทย ว่า ตนเองมีจุดยืนมาตั้งแต่ต้นไม่รับร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง7ฉบับ เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังมีความเหมาะสมกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ซึ่งการลงมติครั้งนี้ของตนไม่กลัวจะมีแรงกดดันจากใครทั้งสิ้น
“เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมาผมก็เคยอภิปรายไว้แล้วถึงเหตุผล ผมสู้มา 6-7เดือนก่อนนี้ การลงมติของประชาชน16.8ล้านเสียงในการรับรัฐธรรมนูญปี60 เราต้องให้เกียรติประชาชน ผมก็ใน1ใน16.8ล้านเสียงนั้น ขอให้ใช้ไปครบวาระก่อน ส.ว.เองก็ยังเหลือเวลาอยู่แค่2ปี ก็จบวาระแล้ว เราต้องคำนึงถึงหัวอกคน16.8ล้าน เป็นหัวอกประชาชน แต่ผมก็เคารพเพื่อนสมาชิกรัฐสภา แต่ผมขอยืนข้างคน16.8 ล้าน
ถามว่ามีแรงกดดัน ส่งสะท้อนอะไรกลับมาหรือไม่ คนก็ให้การสนับสนุนผมนะก็ให้กำลังใจ ในความคิดผมถ้าจะแก้ แก้เป็นรายมาตราได้ แต่จะไปตั้งส.ส.ร.ได้ไง แม้บอกจะไม่แก้หมวด1และหมวด2 แต่เรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ได้มีเพียง2หมวดนั้นในรัฐธรรมนูญ ซึ่งมันจะกระทบพระราชอำนาจได้
นักการเมืองทุจริตคอรัปชั่น พวกโดนคดี ถ้าแก้รัฐธรรมนูญแล้วพวกนี้จะหลุดออกมาหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้แก้ปัญหาในอดีตมาแล้วในเรื่องแบบนี้ แม้ผมเป็นนักการเมือง ในรัฐธรรมนูญนี้ห้ามส.ส.แปรญัตติงบประมาณลงพื้นที่ ผมก็ยอมเพื่อประโยชน์ของประเทศ เพื่อคนส่วนใหญ่ มันเป็นผลดีต่อประเทศ ถ้าไปแก้แล้วคน16.8ล้านคิดอย่าไร นักการเมืองสมประโยชน์ ส่วนผลสะท้อนจากพรรคประชาธิปัตย์ ผมเชื่อพรรคคงเข้าใจ เพราะก่อนนี้ก็เคยอภิปรายไปแล้ว พรรครู้แล้วว่านี่คือจุดยืนของเรา”
ที่มาคลิป : เฟซบุ๊ก ชุมพล จุลใส
