ผลทดลองสุดท้าย “วัคซีนโควิด” ไฟเซอร์ประสิทธิภาพเพิ่มเป็น 95% คาดเริ่มส่งมอบได้ก่อนสิ้นปีนี้

1816

มีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า บริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” (Pfizer Inc) รายงานว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 ได้สูงกว่า 95% จากการทดลองและกล่าวว่าองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) สามารถใช้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉิน (emergency use authorization หรือ EUA) ปล่อยวัคซีนสู่สาธารณชนได้อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว นับว่าเป็นข่าวดีที่คนทั่วโลกรอคอย

โดยผลการทดลองพบว่าวัคซีนนั้น มีประสิทธิภาพอย่างคงเส้นคงวาในทุกกลุ่มอายุและเชื้อชาติ สัญญาณแห่งความหวังสำหรับความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของโรคร้าย ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนแตกต่างกันออกไป โดยมันก่อผลกระทบรุนแรงมากกว่ากับคนชราและกลุ่มชนบางกลุ่ม ในนั้นรวมถึงคนผิวสี

ทั้งนี้ “อูกูร์ ซาฮิน” ซีอีโอของไบโอเอ็นเทค บริษัทยาสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ อาจอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในช่วงกลางเดือนธันวาคม ส่วนในสหภาพยุโรป น่าจะได้รับอนุมัติแบบมีเงื่อนไขในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนธันวาคม

“ถ้ามันเป็นไปด้วยดี ผมสันนิษฐานว่า เราจะได้รับอนุมัติในครึ่งเดือนหลังของธันวาคม และเริ่มส่งมอบได้ก่อนคริสต์มาส แต่มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทุกอย่างเป็นไปในแง่บวก”

อัตราความสำเร็จของวัคซีนที่พัฒนาโดย ไฟเซอร์ อิงค์ ผู้ผลิตยาสัญชาติสหรัฐฯกับไบโอเอ็นเทค สูงกว่าที่คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบกำหนดไว้เป็นอย่างมาก และพวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันคือความสำเร็จครั้งสำคัญในความพยายามเร่งมือยุติโรคระบาดใหญ่

การศึกษาวิจัยไฟเซอร์ เกี่ยวข้องกับอาสาสมัครมากกว่า 43,000 คน และในการทดลองขั้นสุดท้าย เป็นการสรุปหลังพบอาสาสมัครติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น 170 คน แต่ในนั้นมีอยู่ 162 คน ที่ได้รับยาหลอก นั่นหมายความว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพถึง 95% ทั้งนี้ ในบรรดาอาสาสมัคร 10 คน ที่มีอาการโควิด-19 อย่างรุนแรง มีแค่ 1 คน ที่ได้รับวัคซีนจริง

“มันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ มันใช้เวลาไม่ถึงปีนับจากเรียงลำดับเบสสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส จนถึงการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่ของวัคซีน ยิ่งไปกว่านั้นมันยังอยู่บนพื้นฐานเทคนิคใหม่ทั้งหมด”


ซาฮิน ของไบโอเอ็นเทค บอกว่า จะยื่นขออนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯในวันศุกร์ (20 พ.ย.) ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับสถานการณ์เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ มีแผนพบปะกันในวันที่ 8-10 ธันวาคม เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวัคซีนดังกล่าว แต่วันเวลายังอาจเปลี่ยนแปลงได้

ผลวิเคราะห์การทดลองขั้นสุดท้ายมีขึ้นหลังจากผลในเบื้องต้น แสดงให้เห็นว่าวัคซีนตัวดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% และ โมเดอร์นา อิงค์ เมื่อวันจันทร์ (16 พ.ย.) ว่าจากข้อมูลในเบื้องต้น วัคซีนของพวกเขามีประสิทธิผล 94.5% “ตอนนี้เรามีวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง 2 ตัว ที่อาจได้รับอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยา และพร้อมแจกจ่ายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”