ประธาน’FED’เรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ?!? ทุ่มงบฯแสนล้านดอลลาร์ฟื้นฟูเศรษกิจอุ้มแรงงานภาคอุตฯ คาดโควิดยังอยู่อีกนาน

1843

ประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่า โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมแต่จะต้องเผชิญเศรษฐกิจแบบใหม่ ด้วยกระแสเทคโนโลยีล้ำหน้า, ยานพาหนะและเครื่องมือสื่อสารใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบางกลุ่มแต่จะส่งผลกระทบทางลบต่อคนหมู่มากไม่น้อยในระยะสั้น และย้ำว่าต่อให้สหรัฐต้องใช้เงินกว่าแสนล้านดอลลาร์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็จำเป็นต้องทำ เพราะโควิด-19 จะยังอยู่กับสหรัฐไปอีกนาน

ขณะที่ประเทศไทยเศรษฐกิจกำลังฟื้นยืนยันจากตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไตรมาส 3-4 และแนวโน้มปี 2564 จากหน่วยงานรัฐและศูนย์วิจัยภาคเอกชน อุปสรรคถ่วงรั้งคือบรรดาม็อบบ้าคลั่งที่พร้อมเผาทำลายประเทศตัวเองเพื่อสนองวาระต่างชาติและกลุ่มนักการเมืองเสียประโยชน์ คนไทยต้องพร้อมฝ่าข้ามไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองให้ได้

ล่าสุด (18 พ.ย.2563) สหรัฐมีผู้ป่วยติดเชื้อ 11.4 ล้านราย เสียชีวิต 2.48 แสนราย

สหรัฐ-ต้นแบบทุนนิยมเสรียักษ์ครอบโลกยังอ่วม
ในงานมอบรางวัลผู้ประกอบการธุรกิจดีเด่นของ “เดอะเบย์แอเรียเคาซิล” (องค์กรสมาคมธุรกิจในซานฟรานซิสโก:สหรัฐ)เมื่อเร็วๆนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด:

FED:Federal Reserve) ได้กล่าวสถานการณ์ในปัจจุบันว่า “เราจะไม่มีวันกลับไปสู่เศรษฐกิจแบบเดิมได้ แต่เราจะต้องเผชิญเศรษฐกิจแบบใหม่” เป็นการตอกย้ำจากที่เขากล่าวในงานสัมนาธนาคารกลางแห่งยุโรปเมื่อสัปดาห์ก่อน

การระบาดไวรัสโควิด-19 ยังดำเนินอยู่เป็นกระแสหลัก รวมทั้งการเติบโตของการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ยานพาหนะแบบใหม่ และการติดต่อสื่อสารแบบใหม่  พาวเวลล์ได้กล่าวไว้เมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.2563)ในสัปดาห์ก่อน เขากล่าวว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะมอบผลประโยชน์ให้กับบางกลุ่ม แต่จะสร้างผลกระทบทางลบแก่หลายกลุ่มในระยะสั้น

เขากล่าวว่าการฟื้นตัวของกำลังแรงงานรายได้น้อยเป็นไปไม่ง่าย และแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆล้วนต้องการการช่วยเหลือประคับประคองให้สามารถดำเนินต่อไปได้
“การฟื้นตัวไม่ได้เป็นไปอย่างสมบูรณ์” เขาเตือนให้สนใจสภาแวดล้อมของความเสี่ยงที่ท่ามกลางการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 “เราต้องใช้เวลาอีกนานที่จะไปต่อ” เขากล่าวย้ำ

ประธานธนาคารกลางสหรัฐยังตอกย้ำว่า งบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบ 2 มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อช่วยเหลือการฟื้นฟูในทุกระดับ  เฟดกำหนดดอกเบี้ยนโยบายในระดับเกือบ 0%ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและ ออกมาตรการการเงินการคลังเพื่อสนับสนุนการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับมหภาคของประเทศมาตั้งแต่เริ่มพบว่ามีการระบาดในช่วงต้น

อย่างไรก็ตาม ประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวเพิ่มเติมว่า มันคงไม่ใช่เวลาที่จะมาห่วงสุขภาพทางการเงินของสหรัฐอเมริกา แม้ว่ารัฐบาลจะต้องจ่ายเงินเป็นแสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อจะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาดำเนินต่อไปได้ แก้ข้อเสนอนี้จะต้องนำมาใช้เมื่อตัวเลขการว่างงานลดลงและ การเก็บรายได้จากภาษีมีประสิทธิภาพ “นี่เป็นเวลาที่ต้องใส่ใจ” พาวเวลล์กล่าวย้ำ

ประเทศไทยเล็ก-จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะคนไทยเป็นหนึ่งเดียว
ก.คลัง-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง-สภาพัฒน์ ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจไตรมาส 3 ดีกว่าที่คาด และแนวโน้มปี 2564 สามารถดันจีดีพี+4%
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2563 ลดลง 6.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้ รวมแล้วในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ จีดีพีติดลบ 6.7% น้อยกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

หากพิจารณาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจไตรมาส 3 ดีขึ้นจากไตรมาส 2 ปีนี้ทุกรายการ ทำให้ สศช.ปรับประมาณการจีดีพีทั้งปีให้ดีขึ้นจากเดิมลบ 7.8% ถึงลบ 7.3% เป็นลบ 6% ส่วนเศรษฐกิจปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวระหว่าง 3.5-4.5% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 4.0%