บิ๊กตู่หนุน5G “ดิจิทัลสตาร์ทอัพ”!?! เปิดตัวแพลตฟอร์ม “วู่วาม” บริการสตรีมมิ่งของไทยแบบครบวงจร

1936

จากสถานการณ์โควิด-19ระบาดอย่างกว้างขวาง เมืองถูกล็อคดาวน์ ผู้คนถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ความต้องการใช้เทคโนโลยีในการทำงาน และการดำเนินชีวิตมากขึ้น ส่งผลการผลักดันเทคโนโลยี 5G ให้แจ้งเกิดเร็วขึ้น  ประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานรองรับเทคโนโลยี 5G มาระยะหนึ่ง และประกาศใช้เป็นระยะ ล่าสุดก.ดิจิทัลฯและผู้บริหารDEPA ได้แนะนำแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพชื่อ “วู่วาม” แก่นายกฯให้บริการธุรกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชนในยุคนิวนอร์มัล พร้อมเปิดพื้นที่ให้สตาร์ทอัพ- เยาวชนไทย ใช้ความสามารถร่วมพัฒนาประเทศ

วันนี้ (17 พ.ย. 63) เวลา 08.40 น. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการนำเสนอผลงานดิจิทัลสตาร์ทอัพ “ยกระดับบริการดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G” ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะผู้บริหาร DEPA และสตาร์ทอัพ เสนองานบริการดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นเพื่อรับรองภาคธุรกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนด้วยเทคโนโลยี 5G ในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

 ผู้บริหาร DEPA นำเสนอตัวอย่างสตาร์ทอัพที่ DEPA ให้การสนับสนุนคือแพลตฟอร์ม VOOVAM (วู่วาม) ซึ่งเป็นการให้บริการ Virtual Live Streaming ประกอบไปด้วย 6 บริการหลัก ได้แก่ 

1) Virtual Live Streaming Event 2) Webinar 3) Virtual Press Conference 4) Virtual Commerce 5) Virtual Learning และ 6) Internal Conferences 

เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมสัมมนาและอีเวนท์ต้องนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ในการดำเนินธุรกิจด้วยระบบ Virtual Event อาทิ การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ การจัดสัมมนา และแถลงข่าวออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ทุกสถานที่ ลดภาระค่ายใช้จ่ายในการเดินทาง รวมทั้งใช้เทคโนโลยี IoT และ AI ในการนำมาใช้สำหรับระบบพลังงานอาคารอัตโนมัติ แบบออนไลน์ตลอด 24 ชม. สำหรับ โรงพยาบาล โรงแรม อาคารสำนักงาน และโรงงาน เพื่อวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพระบบพลังงานไฟฟ้า อากาศ น้ำ และสถานะเครื่องจักร ลดค่าใช้จ่ายและสร้างประสิทธิภาพในการควบคุมเครื่องจักร ด้วย

“เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้ราคาฮาร์ดแวร์ และระบบเชื่อมต่อต่าง ๆ ลดลง ในทางกลับกันจะสามารถประมวลผล และสั่งการได้เร็วขึ้น ที่สำคัญที่สุด เทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการดิจิทัลรูปแบบใหม่ ช่วยยกระดับบริการดิจิทัลไทยให้ก้าวหน้า เสริมศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในเวทีระดับสากลได้ในที่สุด โดย ดีป้า ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งศูนย์ Thailand 5G Ecosystem Innovation Center (5G EIC) เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศ และทดสอบนวัตกรรมดิจิทัล เป็นศูนย์กลางให้ผู้พัฒนาจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศได้มีพื้นที่แลกเปลี่ยนและพัฒนานวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐาน 5G พร้อมเป็นสถานที่ในการศึกษาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี 5G ซึ่งประเมินว่า ศูนย์ 5G EIC จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน สนองตอบนโยบายรัฐบาลด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชม สตาร์ทอัพไทย ใช้ประโยชน์จากระบบ 5G มาส่งเสริมการดำเนินธุรกิจ เป็นการบริหารงานที่เท่าทันเทคโนโลยี รัฐบาลก็มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนประเทศด้วยเช่นเดียวกับ พร้อมกำชับให้ทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุน “สตาร์ทอัพไทย” พร้อมเชิญชวนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาทำงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลด้วย