เนื่องจากกรณี ที่มีคนในโซเชียล ตั้งคำถามว่า ผ่านทวิตเตอร์ว่า “ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่สองเพราะอะไร?” ทราย เจริญปุระ นักแสดงท่อน้ำเลี้ยงม็อบราษฎร ได้ตอบว่า “ความตีมึน ตีเนียน ตีกิน”
ล่าสุด ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง ได้โพสข้อความแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ความว่า
“วีรกรรมของเสรีไทยคือ
“ตีมึน ตีเนียน ตีกิน” ???
เป็นดราม่าอีกครั้ง เมื่อทรายเจริญปุระ ได้ไปตอบคำถามใน Twitter เรื่องว่าประเทศไทยรอดจากการเป็นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เพราะอะไร โดยตอบว่าเพราะ “ตีมึน ตีเนียน ตีกิน”
การตอบเช่นนี้ ควรจะเกรงใจสมาชิกเสรีไทยทั้งฝ่ายเจ้าและฝ่ายราษฎร (ทั้งที่ยังมีชีวิตและที่เสียชีวิตไประหว่างการสู้รบ)
ที่ร่วมมือกันประสานงานและปฏิบัติการกับกลุ่มสัมพันธมิตร เพื่อต่อต้านญี่ปุ่น และแสดงเจตจำนงชัดว่าไทย ไม่ได้ต้องการเข้าข้างกับฝ่ายอักษะ
จนนำไปสู่การดำเนินการทางการทูต ที่ทำให้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ประกาศสงครามกับไทย และมองว่าไทยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายอักษะ
หมายเหตุ : ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชย์ และข้าราชการในสถานทูตในสหรัฐ ถึงกับแตกหักกับ จอมพล ป.ที่เป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ขนาดโดนขู่ว่าจะถอนสัญชาติไทย แต่ทั้งหมดก็ไม่ยอมสยบ และยังประกาศชัดว่าการดำเนินการของนายกฯ ไทยขณะนั้น ขัดต่อเจตนารมณ์ของคนไทย ”
อย่างไรก็ตาม หากได้ลองศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว จะทราบได้ถึงสิ่งที่ขบวนการเสรีไทย ได้ทำเพื่อรักษาอธิไตยของประเทศเอาไว้ คือ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 นายปรีดี พนมยงค์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ประกาศสันติภาพ มีสาระสำคัญว่า “การประกาศสงครามต่อสหรัฐฯ และอังกฤษตลอดจนการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งปวงผิดจากเจตจำนงของประชาชนชาวไทยและขัดกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมือง การประกาศสงครามต่อฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นโมฆะ ไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย ประเทศไทยได้ตัดสินใจที่จะให้กลับคืนมาซึ่งสัมพันธไมตรีอันดีอันเคยมีมากับนานาประเทศเหมือนเมื่อก่อนวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 และพร้อมที่จะร่วมมือเต็มที่ทุกทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้”
การประกาศสันติภาพนี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอังกฤษ อังกฤษก็พร้อมที่จะไม่บังคับให้ไทยต้องยอมจำนนอย่างปราศจากเงื่อนไข ดุจเดียวกับการปฏิบัติต่อประเทศผู้แพ้สงครามทั้งหมดนี้คือผลสำเร็จโดยสมบูรณ์ของขบวนการเสรีไทยภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์ นั่นคือไทยไม่เสียเอกราชและอธิปไตย ไม่ต้องยอมจำนน ไม่ต้องวางอาวุธ และไม่ต้องถูกยึดครอง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่มีน้ำหนักที่สุดที่ทำให้ไทยไม่ตกเป็นผู้แพ้สงครามเช่นเดียวกับญี่ปุ่นคือปฏิบัติการที่ได้รับความร่วมมืออย่างลับ ๆ ของเสรีไทยกับฝ่ายสัมพันธมิตรในด้านการทหาร ทำให้ไทยมีอำนาจต่อรองในการเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตรหลังสงครามยุติ โดยสหรัฐอเมริกาถือว่าไทยไม่เคยประกาศสงครามต่อประเทศของตน