“อดีตพระพุทธะอิสระ” ย้อนปม “อานนท์” แถป้องทอนเป็นท่อน้ำเลี้ยง แนบข้อความอดีตแกนนำแฉกันเอง

2782

สืบเนื่องมาจากกรณีที่นาย อานนท์ นำภา แกนนำคนสำคัญของม็อบคณะราษฎร ได้โพสต์ ผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ว่า

“ฝ่ายรัฐเอาอะไรไปเชื่อว่าธนาธรอยู่เบื้องหลังม็อบคนรุ่นใหม่ ถึงไปปั่นให้ชาวบ้านมินเนี่ยนเกลียดชังเขาขนาดนั้น
เอาเข้าจริง ผมว่ารัฐเองไม่อยากเชื่อว่าม็อบครั้งนี้มันบริสุทธิ์มากกว่า คือรับไม่ได้ว่าจะมีคนจำนวนมากเติบโตมาจากการกดทับจนระเบิดออกมาเป็นธรรมชาติขนาดนี้ เพราะถ้ายอมรับ รัฐก็จะหมดความชอบธรรมทันที
แค่อยากบอกว่า ขบวนนี้มันโตมาจากการกดทับของรัฐเองนั่นแหละ และท่อน้ำเลี้ยงจริงๆ รัฐก็ตรวจสอบได้อยู่แล้วว่ามันเกิดจากลุงป้าน้าอาที่สนับสนุน ไม่ใช่ธนาธรหรือใครคนใดคนนึง
ส่วนเรื่องข้อมูลที่พวกเรามี มันก็มาจากการเรียนรู้ จากการเปิดโปง จากงานวิชาการของนักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตย และจาการถกเถียงจนตกผลึก
เลิกมโนว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง และยอมรับความจริงเสียที ว่าขบวนราษฎรเที่ยวนี้มันของจริง !”

ซึ่งต่อมา อดีตพระพุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
“อา…แล้วยังไง สรุปแล้วจะให้เชื่อใครดีหละ
๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร 63 โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คตอนหนึ่งว่า
“ แค่อยากบอกว่า ขบวนนี้มันโตมาจากการกดทับของรัฐเองนั่นแหละ และท่อน้ำเลี้ยงจริงๆ รัฐก็ตรวจสอบได้อยู่แล้วว่ามันเกิดจากลุงป้าน้าอาที่สนับสนุน ไม่ใช่ธนาธรหรือใครคนใดคนนึง”
เอะ….เอ้ แล้วเราจะเชื่อใครดีหละหว้า
พุทธะอิสระ”

ซึ่งพระพุทธะอิสระได้แนบมม็อบปลดแอภาพ ข้อความของนาย ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์ อดีตแนวร่วมม็อบปลดแอก ที่เคยมีปัญหาจนประกาศยุติบทบาทแนวร่วก และเคยออกมาแฉถึงเบื้องหลังม็อบออันเน่าเฟะแล้วครั้งหนึ่ง โดยภาพข้อความที่อดีตพระพุทธะอิสระ แนบมานั้น ระบุว่า

“ผมไม่เคยกลัวไอ้อีหน้าไหน และเชื่อเสมอว่าการพูดความจริง ไม่เคยส่งผลเสียเท่ากับการตระบัดสัตย์กับมวลชน อย่านับรวมผมเป็นพวกเดียวกันกับคนที่ไม่นับว่าผมเป็นพวกเดียวกัน ผมมีการต่อสู้ของผม พวกเขาบางคนเหล่านั้นมีการต่อสู้ของพวกเขา
นี่ไม่ใช่การอกหักครับ แค่เรารู้ตัว ว่าเราการต่อสู้ของตัวเอง”

“ผมจะไม่มีวันสู้เพื่อประชาธิปไตยอีกต่อไปแล้ว
จะสู้แบบไหน ก็สู้แค่เเพื่อให้ได้ผู้กดขี่คนใหม่ และทิ้งคนอื่นๆไว้ข้างหลัง หักความฝันของคนที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง
พี่ๆก็ดุไว้นะครับ ว่าผมเป็นมดงานพวกพี่มากี่ปี เป็นหนึ่งในคนที่พวกพี่บีบเค้นแรงงาน ให้เป็นบันได ให้เป็นที่เหยียบย่ำจนสามารถไปรับเงินสถานทูต นั่งรับเงินเดือนในตำแหน่งสำคัญๆ รับงาานจาก NGO ต่างประเทศไว้เคลื่อนไหวตามการล็อบบี้ หรือตกเศษเงินให้น้อง ๆ หน้าใหม่ แต่ตัวเองหักไว้กินเอง 90%
ผมไม่เอาด้วยหรอก ประชาธิปไตยส้_ตี_นี่ทำให้ผมต้องเสียเพื่อน เสียความรู้สึกกับคนที่ผมรัก เสียคนที่เคยเคียงข้างกันเป็นมิตรภาพที่งดงาม”