Truthforyou

บราซิลกลับมาทดลองวัคซีนโควิด-19 จีนอีกครั้ง หลังมีอาสาสมัครเสียชีวิต สหรัฐฯติดเชื้อเพิ่มทุบสถิติ 2 แสนรายต่อวัน

มีรายงาน ระบุว่า ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุขของบราซิล อนุญาตให้ ซิโนวัค บริษัทสัญชาติจีน กลับมาทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายสำหรับวัคซีนโควิด-19 โดยระบุว่าเหตุเสียชีวิตอาสาสมัครรายหนึ่งในเซาเปาลู ที่ทำให้ต้องระงับการทดลองชั่วคราว ก่อนหน้านั้น เกิดจากการฆ่าตัวตายและไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับวัคซีน

โดย บูตันตัน สถาบันการแพทย์ของบราซิล ระบุในถ้อยแแถลงว่าจะกลับมาเดินหน้าการทดลอง หลังจากนี้ในวันพุธ (11พ.ย.) ที่ผ่านมา ว่าประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล ชูการตัดสินใจ อันวิซา ที่สั่งระงับการทดลองเมื่อวันจันทร์(9พ.ย.) ว่าเป็น “ชัยชนะส่วนตัว” เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีความเคลือบแคลงใจในจีนมาช้านาน และไม่ยอมรับวัคซีนของซีโนวัค โดยอ้างว่ามันขาดความน่าเชื่อถือ

การตัดสินของอันวิซา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากองค์กรการทดลองต่าง ๆ ซึ่งบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจากมันไม่จำเป็นต้องหยุดการศึกษาวิจัยแต่อย่างใด เพราะการเสียชีวิตนั้นไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับเกี่ยวกับเคสนี้ ซึ่งนำไปสู่การระงับทดลอง พบว่ามันขาดความสมบูรณ์และไม่มีสาเหตุของการเกิดผลกระทบข้างเคียงรุนแรง พร้อมปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง

“หลังจากประเมินข้อมูลใหม่ที่นำเสนอโดยผู้สนับสนุน อันวิซาเข้าใจว่ามันมีเหตุผลพอเพียงที่จะอนุญาตให้กลับมาทดลองวัคซีน” ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุขของบราซิลกล่าว “มันสำคัญที่ต้องชี้แจงว่าการระงับทดลองใด ๆ ไม่จำเป็นต้องหมายความว่า ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การสืบสวนนั้น ไม่มีคุณภาพ ความปลอดภัยหรือประสิทธิผล”

ทั้งนี้บราซิล เป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เลวร้ายที่สุดในโลก ด้วยจนถึงตอนนี้ยืนยันเคสผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 5.7 ล้านคนและเสียชีวิต 163,000 ราย ขณะที่ โบลโซนารู ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกรณีที่เขาดูเบาความรุนแรงของไวรัสมาตลอด

ขณะที่ล่าสุดทางด้านสหรัฐอเมริกา ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ รายงานว่า สหรัฐฯตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) เพิ่ม 201,214 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 10,230,770 ราย เมื่อนับถึง 00.00 น. ของวันอังคาร (10 พ.ย.) ตามเวลามาตรฐานสากล (GMT) คิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วโลก ก่อนจะเพิ่มเป็น 10,238,243 ราย พร้อมผู้ป่วยเสียชีวิต 239,598 ราย ในอีกสองชั่วโมงถัดมา เมื่อนับถึงราว 02.00 น. ตามเวลามาตรฐานฯ

ข้อมูลจากโครงการติดตามโรคโควิด-19 ของสหรัฐฯ ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคระบาดใหญ่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยมีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศมากกว่า 60,000 ราย อย่างไรก็ตามสหรัฐฯตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มราว 1 ล้านราย ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา นับว่ารวดเร็วที่สุดตั้งแต่สหรัฐฯ พบผู้ป่วยรายแรกในประเทศเมื่อเดือนมกราคม

Exit mobile version