จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์กลุ่มมวลชนคณะราษฎร ได้เคลื่อนขบวนเพื่อจะฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา และเข้าใกล้เขตพระบรมมหาราชวังนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำฉีดสกัดกลุ่มคนเอาไว้ โดยมีมวลชนขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จนต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กล่าวขอโทษว่า การฉีดน้ำผิดพลาด และจะไม่ฉีดใส่มวลชนอีก
ขณะที่ทางด้านพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ในฐานะผบ.คุมสถานการณ์ กล่าวชี้แจงกับผู้ชุมนุมว่า เรากั้นแนวไว้เพื่อไม่ต้องการให้น้อง ๆ ทำผิดกฎหมาย แม้อยู่นอกรั้วก็เจรจาได้ ถ้าน้อง ๆ ยังจะเข้ามา เราจึงต้องฉีดน้ำเพื่อเตือน ขอร้องน้อง ๆ อย่าฝ่าแนวกั้นเข้ามา เราเสียใจ แต่เราไม่ต้องการให้น้อง ๆ ฝ่าแนวกั้นเข้าไป
ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มเครือข่ายปกป้องสถาบันประกาศพร้อมเผชิญกับผู้ชุมนุมที่เห็นต่างว่า การเผชิญหน้าและกระทบกระทั่งกันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา เพราะมองว่าต่างคนต่างก็สามารถแสดงความเห็นได้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์หากไม่ละเมิดกฎหมาย
“รัฐบาลไม่ได้เข้าข้างใคร และแม้กระทั่งผู้ทำผิดกฎหมายรัฐบาลยังต้องดูแล เพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน และไม่ต้องการให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น”
นายกฯกล่าวอีกว่า ขออย่าทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันโดยเด็ดขาด และอย่าฝ่าฝืนกฎหมายกันจนเกินเลย เพราะหากเจ้าหน้าที่ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ก็จะมีความผิด โดยรัฐบาลพยายามใช้ทุกมาตรการในการดูแลอยู่แล้ว และขณะนี้ข้อเรียกร้องก็อยู่ในกระบวนการของรัฐสภาและอยู่ในกลไกการแก้ปัญหา ซึ่งหากทุกคนไม่รับอะไรเลย ก็ไม่รู้ว่าประเทศจะไปทางไหน
ทั้งนี้รัฐบาล ฝ่ายกฎหมาย พยายามอดทนอดกลั้นในหลายเรื่อง พร้อมขอความเห็นใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย มีความเครียด และต้องอดทนอดกลั้น ทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่