Truthforyou

“แรมโบ้อีสาน” เดือดจัด ซัด “ธนาธร”และพวก ใส่ร้ายนายกฯ เตรียมดำเนินคดี ดัดนิสัยก้าวร้าว

จากกรณีที่นายกฯปัดตกร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ ปิดประตูก้าวแรกปฏิรูปกองทัพ ต่อมามีสมาชิกพรรคก้าวหน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้าได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

ล่าสุด นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ออกมาพูดถึงกรณีนายกฯปัดตกร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ ปิดประตูก้าวแรกปฏิรูปกองทัพ ว่าเข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น แต่นายธนาธรก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการเกณฑ์ทหารในประเทศไทยยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันปกป้องประเทศ

และแม้นายธนาธร จะมองว่าประเทศไทยจะไม่มีการสู้รบเกิดขึ้น แต่ยังต้องมีการป้องกันตามแนวชายแดน รวมถึงภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นทหารที่ทำหน้าที่นี้ พร้อมยืนยันว่านายกฯไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นตามที่นายธนาธร และ ส.ส. พรรคก้าวไกล กล่าวหา เป็นการกล่าวหานายกฯอย่างไม่เป็นธรรม เพราะนายกฯไม่เคยไปก้าวล่วงหรือแทรกแซง การพิจารณาหรือลงมติในร่าง พรบ.ฉบับใดๆที่พิจารณาในสภาทั้งสิ้น

ส่วนที่นายธนาธรฯ ระบุว่าการปฏิรูปกองทัพ ให้เป็นกองทัพที่อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน เคารพสิทธิมนุษยชน ทหารชั้นผู้น้อยได้สวัสดิการที่เหมาะสม ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสตรวจสอบได้ นั้น นายสุภรณ์ระบุว่านายธนาธรไม่ควรมองให้ร้าย กองทัพ เพราะที่ผ่านมากองทัพก็ได้ทำงานให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด และดูแลทหารเป็นอย่างดี อีกทั้งการใช้งบประมาณต่างๆไม่ว่าจะเป็น กองทัพ หรือหน่วยงานอื่น นายกฯได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ที่ต้องทำให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม และสั่งการในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยให้นโยบายกองทัพดูแลสวัสดิการความเป็นอยู่ทหารชั้นผู้น้อยให้ได้รับการดูแลให้ดีที่สุดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและกำลังที่สำคัญให้กับกองทัพ

นายสุภรณ์ฯยังเห็นว่านายธนาธร และพวกตลอดจน ส.ส. พรรคก้าวไกล หลายๆคน ไม่ควรเอาเรื่องที่ไม่เป็นจริงกล่าวหานายกฯ ตนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายได้รวบรวมเนื้อหาทุกเรื่องราว ที่นายธนาธรและพรรคพวกได้กล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความอันเป็นเท็จ และมีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลและสื่อทั่วไป อันทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวนายกฯโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมานายกฯก็อดทนใจเย็นให้อภัยตลอดมา แต่จากนี้ไปในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ตนต้องขออนุญาตนายกฯเพื่อมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินคดีกับคนประเภทนี้ ที่ดีแต่ชอบใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาประเภทเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ทั้งที่นายกฯเอง เรียกร้องหาความสามัคคี สมานฉันท์ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งในประเทศ ไม่เคยตอบโต้ อดทนทุกเรื่อง จากนี้ไปตนและทีมงานฝ่ายกฎหมายของตน จะไม่ยอมให้นายธนาธรและพวก โจมตีนายกฯฝ่ายเดียวอีกต่อไปต้องดำเนินคดีทางกฎหมายให้เข็ดหลาบ ให้หุบปากหุบคำ หยุดความก้าวร้าว ดัดนิสัยเสียบ้าง”

Exit mobile version