จากที่วันนี้(8พ.ย.63) ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งคนไทยควรรับรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ยิ่ง!?!
ตอนแรกก็สงสัยว่าพระองค์ท่านโอนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นส่วนบุคคลทำไม ทำให้พระองค์ต้องเสียภาษีต่อปีมหาศาล ก็เพิ่งเข้าใจได้ว่าพระองค์ท่านสามารถตัดสินพระทัยอะไรได้คล่องแคล่วและทันที แม้จะต้องเสียภาษี แต่ก็มีข้อดีกว่าสมัยก่อนต้องผ่านหลายขั้นตอน และไม่คล่องตัว
มาดูกันว่าในหลวงร.10 พระองค์ท่านบริจาค/ช่วยเหลืออะไรบ้าง หลังพระองค์ครองราชย์..(แค่บางส่วน)
40 ล้านบาทท่านพระราชทานให้กับฟื้นฟูโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยภาคใต้
100 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลศิริราช
10 ล้านบาท ให้กับโรงเรียนที่ภาคอีสานที่ประสบอุทกภัย
80 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก
พระราชทานเงิน 2400 ล้านบาทช่วย 27 โรงพยาบาลทั่วไทยในการจัดซื้อ เครื่องมือครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล
พระราชทานเงิน 80 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับร.พ.สงขลานครินทร์
พระราชทาน 80 ล้านให้โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
พระราชทานโฉนดที่ดิน 67ไร่ ให้แก่ร.ร.วชิราวุธวิทยาลัย
พระราชทานเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆจำนวน 119 เครื่องเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์
พระราชทาน”ห้องตรวจผู้มีความเสี่ยง” แก่ 20 โรงพยาบาลเพื่อรับมือ โควิด
พระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อ ชีวนิรภัยจำนวน 13 คัน เพื่อกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์
พระราชทานเงิน 100 ล้านให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา
พระราชทานที่ 40 ไร่ตั้งโครงการวิทยุดาราศาสตร์
พระราชทานพระราชทรัพย์ผลิตห้องตรวจเชื้อ 20 รพ.ลดเสี่ยงติดโควิด
พระราชทานเงิน รพ.ศูนย์สกลนคร 79 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตาพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 9 ล้านบาทให้เป็นทุนประเดิมกิจการแก่สหกรณ์โบ๊เบ๊จัดระเบียบผู้ค้าโบ๊เบ๊
พระราชทานอากาศยาน Cessna 182T ให้กองทัพบก ปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันประเทศ- ช่วยเหลือประชาชน
พระราชทานเครื่องบินเล็ก 3 ลำให้ทบ.ปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันประเทศและช่วยเหลือประชาชน
พระราชทาน เงิน 100 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลศิริราช
พระราชทานรถบัสรับส่งนักเรียน รร.แนวชายแดน
ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารเมื่อปี 2552
พระราชทานที่ดิน 1350ไร่ จัดตั้งคลินิก
ที่มา : เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol
