ดร.นิว แฉ ปิยบุตร ตั้งใจบิดเบือนข้อมูล โจมตีสถาบันฯ เพื่อปลุกปั่นม็อบที่ขาดความรู้

2459

ดร.ศุภณัฐ หรือ ดร.นิว แฉ นายปิยบุตร เจ้าของวลีนิติสงคราม ใช้ข้อมูลปลอมนำมาบิดเบือนโจมตีสถาบัน เพื่อปลุกผู้ชุมนุมให้ออกมาโจมตีสถาบันฯ

ในวันที่ 6 พ.ย.63 ทางด้านของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้หยิบประเด็นที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล โจมตีสถาบัน เรื่องภาษีมรดก ส่งผลให้ผู้ชุมนุมหลงเชื่อ และโจมตีสถาบันในกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อความจริงเปิดเผย กลับไม่ยอมออกมาบอกความจริง ให้ทุกคนเข้าใจ โดยโพสต์ข้อความดังต่อไปนี้…

บทภาพยนตร์นิติสงคราม ภาค 1
(ช่วยกันนำไปถ่ายทำภาพยนตร์นิติสงครามได้ที่โรงพักใกล้บ้านคุณ)

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์ลงใน
Twitter: Piyabutr Saengkanokkul (@Piyabutr_FWP)
Facebook : Piyabutr Saengkanokkul (@PiyabutrOfficial)
มีเนื้อความและวิดีโอซึ่งมีเนื้อหาบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อให้เกิดความเกลียดชังและความน่าเคลือบแคลงสงสัย มีการยกกฎหมายของประเทศเยอรมนีขึ้นมาอ้างเพื่อโจมตีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างรุนแรงในประเด็นเกี่ยวกับภาษีมรดก โดยปราศจากความรู้ที่ถูกต้องและไม่ได้คำนึงถึงกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญแต่อย่างใด ส่อถึงเจตนายุยงปลุกปั่นให้เกิดความเข้าใจในทางที่ผิด ตลอดจนความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน

ในความเป็นจริงแล้ว พฤติกรรมดังกล่าวของนายปิยบุตรไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น เพราะผิดลำดับความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมาย การยกกฎหมายภาษีมรดกของประเทศเยอรมนีขึ้นมาโดยไม่ได้คำนึงถึงหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แสดงถึงความไม่สุจริตอย่างชัดเจน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนายปิยบุตรที่มีการศึกษาทางด้านกฎหมายถึงระดับปริญญาเอก จึงไม่สมควรที่จะปลุกปั่นกระแสบิดเบือนนี้ขึ้นมาอย่างสิ้นเชิง

ทั้งนี้กฎหมายระหว่างประเทศ “อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต ค.ศ. 1961 (1961 Vienna Convention on Diplomatic Relations)” ได้ระบุถึงเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางทูตระหว่างประเทศไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว และเพียงไม่กี่วัน หลังจากการโพสต์ของนายปิยบุตรคู่ขนานกับการเคลื่อนไหวของม็อบที่มีพฤติกรรมจ้วงจาบหยาบช้าหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย

ได้มีการชี้แจงของกระทรวงต่างประเทศเยอรมนีซึ่งสามารถตรวจสอบได้ในสื่อทั่วไปทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ได้ยืนยันแล้วว่าพระมหากษัตริย์ไทยมิได้ทรงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งยังได้ชี้แจงด้วยว่า พระมหากษัตริย์ไทยทรงได้รับวีซ่าให้พำนักในเยอรมนีได้เป็นเวลาหลายปีในสถานะบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และยังทรงได้รับสิทธิ์ปกป้องทางการทูตในฐานะประมุขของประเทศด้วย

แต่ในท้ายที่สุดนายปิยบุตรก็ไม่ได้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อแก้ไขความเคลือบแคลงสงสัยและความตื่นตระหนกที่ตนเองได้นำเสนอขึ้นมาแต่ประการใด อันแสดงให้เห็นถึงความไม่สุจริตและความจงใจในการนำเสนอข้อมูลด้านเดียว อันมีเจตนาในการสร้างความเข้าใจที่ผิดตลอดจนความเกลียดชังต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประมุขแห่งรัฐ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนและศูนย์กลางความมั่นคงของประเทศ

การกระทำดังกล่าวของนายปิยบุตรที่ได้ยกกฎหมายภาษีมรดกของประเทศเยอรมนีขึ้นมา เพื่อปั่นกระแสความเข้าใจที่ผิดต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นการทำลายความมั่นคงของประเทศ ปลุกระดมให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตลอดจนก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนในประเด็นระหว่างประเทศที่ละเอียดอ่อน จึงอาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย

– ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

– พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

#ทุกคนคือผู้กำกับภาพยนตร์นิติสงคราม
#ฉายแล้ววันนี้ที่โรงพักใกล้บ้านคุณ

ดร.ศุภณัฐ
6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ