การแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกา ทำสถิติเพิ่มขึ้นรวดเร็วทำให้หลายมลรัฐเผชิญปัญหาเดียวกันคือ ขาดแคลนแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญชี้ที่รัฐบาลฯรับมือช้ากว่าสถานการณ์จริง วอนกลับมาทบทวนก่อนจะสาหัสกว่านี้ กระทรวงกลาโหมต้องส่งแพทย์พยาบาลทหารช่วยดูแลคนป่วยในหลายมลรัฐ
เมื่อไวรัสสายพันธ์ใหม่ โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลก ผู้นำด้านสาธารณสุขของสหรัฐยังมีความหวังที่จะสามารถรับมือการระบาดได้ เพราะมั่นใจในมาตรฐานการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศ หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน และทั่วโลกต่างรับมือกับการระบาดของโลก และได้รับผลแตกต่างกันไป หลายประเทศออกมาตรการตรวจสอบการติดเชื้อ กักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ มีการรณรงค์สวมหน้ากากอนามัย ให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น แต่จนกระทั้่งวันนี้สหรัฐฯยังคงเผชิญกับการระบาดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายรัฐ แม้ผู้เสียชีวิตจะไม่เพิ่มขึ้นมาก แต่อุปสรรคของการรักษาพยาบาลเริ่มส่งเค้า ไม่ราบรื่นเพราะในหลายเมือง ขาดแคลนทั้งแพทย์และพยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่จะเข้ามาดูแลรักษา คัดกรองผู้ป่วย
ประสบการณ์ของทั้งโลกบอกว่า การตรวจทดสอบการติดเชื้อ และการแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนปกติ การติดตามพัฒนาการของเชื้อโรคเป็นวิธีการที่ได้ผลในการรับมือการระบาด เช่นที่เกาหลีใต้ และเยอรมนีทำ แต่ทั้งสองประเทศกลับทรงตัวไม่มีสถิติผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงเหมือนสหรัฐฯ
มาร์ค ลิปซิท ,ศาสตราจารยฺทางระบาดวิทยรา จากวิทยาลัยสาธารณสุข: มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดกล่าวว่า “ผมคิดว่าถ้าเราติดตามหาคนติดเชื้อไวรัสได้ทัน ก็จะสามารถควบคุมการระบาดได้เร็วขึ้น การแพร่ระบาดก็อาจลดลงมากกว่านี้ เช่นการมีหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ของคนที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย เป็นต้น”
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีจำนวนไม่น้อยเป็นอาสาสมัคร และต้องง่วนอยู่กับการดูแลผู้ป่วยจึงมาทำการเก็บข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ และไม่มีหน่วยงานใดมารับทำโดยตรง
ขณะเดียวกับที่รัฐบาล และมลรัฐต่างๆมีนโยบายเปิดเมือง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้บางรัฐจะมีการควบคุม ให้สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง แต่ก็ไม่ได้ทำเป็นเอกภาพกันทั่วประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในท้องถิ่นมองว่า สถานการณ์ในฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึงจะต่างไปจากหน้าร้อนที่ผ่านมา
สถานการณ์การติดเชื้อและการเสียชีวิตทั่วประเทศ ยังไม่นิ่งอย่างที่ทุกฝ่ายคาดหวัง ก็เกิดปัญหาโรงพยาบาลจำนวนมากขาดแพทย์และพยาบาลที่จะดูแลผู้ป่วยขยายวงมากขึ้น
ที่ลอสแองเจลิส ต้องให้แพทย์ทหารมาทำการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 สื่อท้องถิ่นรายงาน ทีมแพทย์ของกระทรวงกลาโหม ต้องลงพื้นที่รับมือการแพร่ระบาดในท้องถิ่น ควบคู่ไปกับกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ อย่างน้อย โรงพยาบาล 6 แห่งได้รับการหนุนช่วยจากแพทย์ทหารแล้ว
นายไบรอัน เฟอร์กูสัน, โฆษกของหน่วยงานรับเรื่องด่วนของรัฐบาล “โดยพื้นฐานได้ส่งแพทย์ทหารให้เป็นกำลังหนุนโรงพยาบาลที่ขาดแคลน” เนื่องจากโรงพยาบาลต่างๆต้องรับมือกับการเพิ่มขึ้นของคนไข้ และเจ้าหน้าที่ทั้งแพทย์ พยาบาลและผู้ช่วยหลายส่วนติดเชื้อ ต้องพักรักษาตัว ส่วนที่ดีขึ้นก็ต้องอยู่ในระหว่างกักตัว
แอริโซนา และเท็กซัสกำลังพบกับสถานการณ์แบบเดียวกัน คือกำลังแพทย์และพยาบาลไม่พอรับมือคนไข้ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ นักวิจัยเก็บข้อมูลชัดเจนว่าสถานการณ์ขาดแคลนนี้จะเกิดขึ้นกว่า 50% ในหลายมลรัฐ นอกจากนี้ในแต่ละโรงพยาบาลเริ่มมีสัญญาณขาดแคลนห้องสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก (ICU) ถึงขนาดที่ว่าบางแห่งต้องจัดเตียงคนป่วยหนักไว้ด้านนอก
รายงานยังระบุว่าการระบาดของไวรัสสายพันธ์ใหม่คุกคามแพทย์และพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพราะต่างต้องทำงานหนัก ขาดการพักผ่อน
ล่าสุดสหรัฐอเมริกา ติดเชื้อสูงสุดในโลกกว่า 4,498,343 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 152,320 ราย มีเคสใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันใน 30 มลรัฐทั่วประเทศ
…………………………………………………………………….