Truthforyou

ตร.เผยความคืบหน้าล่าสุด เช็กกล้องวงจรปิดตามตัวคนปาประทัด MRT ท่าพระ ชี้ข้อผิดกม.เจอโทษหนัก

สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 63 เวลา กลุ่มราษฎรฝั่งธนได้มีการนัดชุมนุมที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ท่าพระ โดยมีมวลชนเดินทางมาร่วมชุมนุมจำนวนหนึ่ง

ต่อมาเวลาประมาณ 17.50 น.ได้เกิดเสียงดังคล้ายประทัดขึ้น 1 นัด สร้างความแตกตื่นให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ทำให้แกนนำที่ปราศรัยอยู่บนรถขยายเสียงได้ประกาศขอให้มวลชนนั่งอยู่กับที่ และอยู่ในความสงบ โดยการ์ดจะเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์เอง

จากนั้นในเวลา 18.00 น. หลังจากเคารพธงชาติแล้ว ทีมงานการ์ดได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่าเสียงที่ดังขึ้นเมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั้น เป็นกลุ่มที่ไม่หวังดีโยนระเบิดปิงปองเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ลูก แต่เกิดระเบิดเพียงลูกเดียว และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุด วันนี้ (3 พ.ย.63) พล.ต.ต.จิรภัทร ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุบุคคลปาปะทัด2 ลูก เข้าในกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ที่ MRT ท่าพระ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย.ว่า เบื้องต้นวัตถุพยานที่หลงเหลือในที่เกิดเหตุ 1 ชิ้น มีลักษณะเป็นทรงกลมจากการตรวจสอบพบเป็นปะทัดที่มีขายตามร้านค้าทั่วไป ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีท่าพระ และเกิดเสียงดังขึ้นในเวลา 17.57 น.

โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนสถานีรถไฟฟ้าจำนวนกว่า 20 ตัว และ ได้ประสานตรวจสอบกล้องวงจรปิดใต้สถานีรถไฟฟ้าด้วย เพื่อดูเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งการขอตรวจสอบกล้องครั้งนี้เป็นการขอดูกลองวงจรปิดย้อนหลังก่อนเกิดเหตุ 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ซึ่งตำรวจในพื้นที่ได้รับคดีนี้เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว ในความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 370 ผู้ใดทำให้เสียงดังประชาชาชนตื่นตกใจ ซึ่งเป็นความผิดฐานลหุโทษ

พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.จิรภัทร ได้กำชับไปให้ตำรวจสถานีตำรวจท้องที่ โดยเฉพาะบริเวณที่จัดการชุมนุม ทั้งพื้นที่สูง และ แนวราบ ให้เพิ่มมาตราการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น ทั้งพื้นที่อาคาร สะพานลอย และ สถานีรถไฟ เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนกรณีที่นายอานนท์ นำพา ประกาศเตรียมยกระดับการชุมนุม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีนโยบายและแผนป้องกันอยู่แล้ว และ ยืนยันใช้ พรบ.การชุมนุมเช่นเดิม

Exit mobile version