ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ปอท. สอบ จาตุรนต์ ปล่อยเฟคนิวส์ กรณีอายัด รุ้ง-ไมค์-เพนกวิน

3209

ศรีสุวรรณ จรรยา จ่อร้อง ปอท. สอบ จาตุรนต์ ฉายแสง ปล่อยเฟคนิวส์ กรณีอายัดตัว รุ้ง-ไมค์-เพนกวิน ที่สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 63 ศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้แก่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ต่อมาตำรวจ สน.ประชาชื่น ได้มาอายัดตัว ไมค์ รุ้ง และเพนกวิน ไปดำเนินคดีตามหมายจับอื่นต่อและได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการรวมพลอยู่ทำให้การที่จะนำตัวไมค์และเพนกวินลงจากรถตำรวจจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก จนทำให้ไค์และเพนกวินมีอาการอ่อนเพลีย เนื่อจากอยู่ในรถนานบวกกับมีอากาศน้อย จึงส่งผลให้ไมค์ ระยอง เป็นลม จึงต้องหามส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา

ต่อมาทางด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า

ใช้หมายจับที่หมดสภาพแล้วไปจับกุมคนโดยพลการ ระหว่างเคลื่อนย้ายทำให้เขาสลบ มันป่าเถื่อนมาก ใครสั่งใครบงการย่อมเป็นที่เกลียดชัง ระบบยุติธรรมก็เสื่อมเสีย น่าอับอายไปทั่วโลก
(เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อน ผมได้แก้ข้อความไปเล็กน้อยครับ อย่างไรก็ตามการที่ผู้ต้องหาต้องสลบไป ย่อมเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่และผู้สั่ง)
ล่าสุดทางด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ได้โพสต์ข้อความดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า
ศรีสุวรรณจ่อร้อง ปอท.สอบ’จาตุรนต์’ปล่อยเฟกนิวส์ กรณีอายัด’รุ้ง-ไมค์-เพนกวิน’
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ และอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ในลักษณะตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการอายัดตัวผู้ถูกกล่าวหาคือ ไมค์-เพนกวิน-รุ้ง ไปยัง สน.ประชาชื่นเพื่อลงบันทึกการจับกุมหลังได้รับการปล่อยตัวกรณีศาลยกคำร้องฝากขัง ซึ่งอาจเข้าข่ายนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
แม้ในเวลาต่อมาเพจดังกล่าว ได้มีการแก้ไขข้อความใหม่ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อน แต่ทว่าโพสต์ดังกล่าวได้มีการก๊อปปี้ข้อความและแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมากแล้ว และถึงอย่างไรก็เข้าข่าย “ความผิดสำเร็จ” ไปแล้วตามประมวลกฎหมายอาญา ม.63 ประกอบ ม.80 เพราะความผิดประเภทนี้ เป็นความผิดที่กฎหมายไม่ต้องการผลตามทฤษฎีการกระทำความผิดทางอาญา
“การที่ใครก็ตามที่เป็นบุคคลสาธารณะหรือเคยมีตำแหน่งใหญ่โต กลับกลายมาเป็นผู้นำในการสร้างและเผยแพร่เฟกนิวส์เสียเอง อย่าคิดว่าการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นเรื่องเล็กน้อยแล้ว ไม่มีใครกล้ามาเอาโทษด้วยนั้น คิดผิดแล้วครับ”
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนกล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนตามครรลองของกฎหมายต่อไป โดยจะเดินทางไป ปอท.ในวันจันทร์ที่ 2 พ.ย.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน ปอท. ชั้น 4 อาคารศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด