จากการยื่นฝากขังครั้งที่ 3 ของพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง
กรณีเป็นแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในคดีชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 รวมถึง นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ ในคดีดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ต่อมาศาลอาญาให้ยกคำร้อง เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่ามีความยุ่งยากที่จะต้องฝากขังต่อ พร้อมคำนึงถึงสิทธิผู้ต้องหาไม่ให้เกินกว่าความจำเป็นกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ และหากการสอบสวนเสร็จสิ้นก็สามารถนำตัวมาฟ้องได้ไม่จำเป็นต้องขังระหว่างสอบสวน โดยมีกำหนดการปล่อยตัวในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.)
ต่อมาภายหลังปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาปล่อยตัวในช่วง 20.58 น. มีเพียงหมอลำแบงค์ที่เดินทางออกจากเรือนจำเพียงคนเดียว ส่วนเพนกวินและไมค์ รวมถึง รุ้ง ถูกอายัดตัวดำเนินคดีอื่น ๆ โดย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ได้พูดคุยกับทีมทนายความและตำรวจที่เข้าไปภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทราบว่า เพนกวิน ไมค์ และ รุ้ง มีหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีในคดีร่วมชุมนุมปราศรัยในพื้นที่
ดังนั้นหลังจากเรือนจำปล่อยตัวในคดีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสนามหลวงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ได้เข้ามาอายัดตัวทั้ง 3 คนไปดำเนินคดี โดยเบื้องต้นจะพาตัวไปที่สนประชาชื่น เพื่อลงบันทึกประจำวันก่อนจะพาตัวไปสอบสวนที่สภ.เมืองนนทบุรี ตามหมายจับของศาล นอกจากนี้เพนกวิน ยังมีคดีที่ถูกแจ้งความและออกหมายจับไว้ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีด้วย ทำให้ทั้ง 3 คนจะยังไม่ได้เดินทางกลับบ้าน ขณะที่บรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯกลุ่มมวลชนที่มารอให้กำลังใจ เพนกวิน ไมค์ และ รุ้ง ต่างไม่พอใจและยืนตะโกนเปล่งเสียงปล่อยเพื่อนเราพร้อมกับชู 3 นิ้ว
จากนั้นในเวลา 21.29 น. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหา ประกอบด้วย ไมค์, เพนกวิน มาถึง สน.ประชาชื่น ก็เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อมวลชนที่มารอให้กำลังใจ ต่างไม่พอใจแล้วกรูเข้าไปทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาจนพังยับเยิน
กระทั่งจนถึงเวลา 22.28 น. เหตุการณ์จึงคลี่คลายลง โดยพบว่าไมค์มีอาการป่วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานรถพยาบาลมารับตัวเพื่อส่งไปยังโรงพยาบาล เกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยทีมทนายความ และ นพ.ทศพร ได้ยืนยันไมค์มีอาการป่วยจริง
ก่อนจะมีรายงานเพิ่มเติมในเวลาต่อมาว่าไมค์ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยพยาบาลอาสาระบุว่า เป็นผลเนื่องจากมีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติและความดันต่ำ หากอยู่ในที่แคบนาน ๆ หรือขาดอากาศหายใจจะมีอาการวูบและน็อกได้
ขณะที่ เพนกวิน ซึ่งแสดงการอารยะขัดขืนก่อนเปิดพื้นทีปราศรัยบริเวณด้านหน้า สน.ประชาชื่น โดยระบุว่า ตนยืนยันต่อสู้โดยไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ คิดว่ามีอำนาจจับกุมตนเอง ให้เดินทางมาจับด้านหน้าโรงพัก ตนจะไม่หนีไปไหน และเพื่อผดุงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมือง และตามมาตรา 157 ถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็พร้อมที่จะฟ้องตำรวจทั้งโรงพัก
ส่วนกรณีของ รุ้ง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวออกจาก ทัณฑสถานหญิงกลางมายัง สน.ประชาชื่น เพื่อมาดำเนินการตามกฎหมายในคดีเดียวกัน
และในเวลาประมาณ 22.30 น. รุ้ง ก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาพบประชาชน ที่หน้าสน.ประชาชื่น เพื่อร่วมพูดคุยกับมวลชน โดยแถลงยืนยันว่าแม้จะมีผู้พยายามยั่วยุและสร้างโกรธแค้นให้ทุกคน แต่เราต้องมีสติ ยืนยันการไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ก้าวร้าว พร้อมต่อสู้อย่างมีสมองและมีวุฒิภาวะ ท่ามกลางกลุ่มแนวร่วมที่หมุนเวียนผลัดกันขึ้นปราศรัยเป็นระยะ ๆ
จนถึงเวลา 03.10 น. วันที่ 31 ต.ค.2563 พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกมาประกาศจะขอนำตัว เพนกวิน ซึ่งอยู่ในอาการอ่อนเพลียอย่างชัดเจน ไมค์ และ รุ้ง เข้าทำการสอบสวนที่ชั้น 2 ของ สน.ประชาชื่น โดยอ้างเหตุแห่งคดีในท้องที่ สภ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ เพนกวิน ได้พยายามสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากยินดีกระทำตามแล้วจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ โดยทาง พ.ต.อ.เอกราช ไม่รับปากแต่แจ้งให้ทราบว่า ผู้ถูกสอบสวนจะได้รับสิทธิตามกฎหมายทุกอย่าง โดยเฉพาะหากเจ็บป่วยก็จะได้รับสิทธิการรักษาพยาบาล เนื่องจากมีการเตรียมรถฉุกเฉินของ รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น การเจรจาต่อรองผ่านเลยไปประมาณ 10 นาที เพนกวิน และ รุ้ง จึงยอมเดินขึ้นไปเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการสอบสวนที่ชั้น 2 สน.ประชาชื่น
และในเวลา 03.25 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพระนครศรีอยุธา ได้บันทึกการจับกุมผู้ต้องหา ขณะที่เพนกวิน และ รุ้ง มีการยื่นคำร้องขอเข้ารับการรักษาอาการป่วย โดยมีรถพยาบาลจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น มารอรับตัว โดยพยาบาลอาสาฯ ระบุอาการของเพนกวินว่ามีลักษณะ ปวดบวมทั้งศีรษะ ไหล่ และแขนด้านขวา ส่วนที่ฝ่าเท้ามีสะเก็ดเศษแก้วฝังอยู่เกือบ 20 ชิ้น จากช่วงที่กลุ่มมวลชนเข้าพังรถควบคุมผู้ต้องหา ถึงแม้จะนำเศษแก้วออกบ้างแล้วแต่ยังไม่หมด
จากนั้นเวลา 04.35 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ได้เดินออกมาจาก สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งแก่กลุ่มมวลชนที่ยังปักหลักรอที่บริเวณด้านหน้าว่า ขณะนี้การสอบปากคำรุ้ง และ เพนกวิน เสร็จสิ้นแล้ว และจะพาตัวทั้งสองคนไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ด้วยอาการอ่อนเพลีย และเพนกวิน มีอาการบาดเจ็บจากเศษกระจก ต้องได้รับการพักฟื้น 2-3 วัน
ส่วน ไมค์ รู้สึกตัวแล้วแต่ยังคงต้องพักรักษาตัวอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นำตัวทั้งสองคนขึ้นรถพยาบาล ของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยมี นพ.ทศพร และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ขึ้นรถติดตามไปด้วย และภายหลังจากแกนนำขึ้นรถพยาบาลออกจาก สน.ประชาชื่นแล้ว ทางตัวแทนได้ประกาศยุติการชุมนุม
โดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพระนครศรีอยุธา จะไปทำบันทึกจับกุม ไมค์ ที่ โรงพยาบาลพระรามเก้า ก่อนที่จะไปยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันนี้ (31 ต.ค.)
พร้อมเปิดเผยภาพในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการแสดงตัวจับกุม ไมค์ ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธการจับกุม โดยอ้างเหตุว่าเนื่องจากการจับกุมเริ่มตั้งแต่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว ไม่ใช่เริ่มจับกุมที่โรงพยาบาลพระรามเก้าตามที่ตำรวจได้แจ้งการจับกุม