นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงสถานการณ์ความวุ่นวายที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน ซึ่งกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย พยายามขอสิทธิลี้ภัยไปยังสหรัฐอเมริกา
แต่ทางสหรัฐปฏิเสธ ส่งผลให้ถูกตำรวจจับกุมว่า ตัวอย่างที่เกิดขึ้นมีให้เยาวชนที่ออกมาก่อม็อบเห็นแล้ว ว่าทุกการชุมนุมมักมีผู้อยู่เบื้องหลัง และเมื่อการชุมนุมจบลง บรรดาแกนนำก็ต้องหลบหนีหรือรับโทษ แต่คนอยู่เบื้องหลัง หรือพวกอีแอบทั้งหลายก็จะพาเหรดเข้าสู่เส้นทางการเมือง เพื่อเสวยสุขในอำนาจต่อไป ไม่แตกต่างจากพวกจิตใจอำมหิต เหี้ยมโหด ที่หวังแต่หลอกใช้เยาวชนเป็นบันไดสู่ความสำเร็จที่ตัวเองคาดไว้
จากที่ตนเห็นเด็ก ๆ และเยาวชนเหล่านี้ บางคนเรียนถึงนิติศาสตร์ วิศวะ หมอ ซึ่งยังมีอนาคตอีกยาวไกล การออกมาชุมนุมจนมีคดีความติดตัว ในอนาคตเมื่อเรียนจบ คดีเหล่านี้จะอยู่กับน้อง ๆ ไปตลอดชีวิต ไม่ต้องคิดว่าจะรับราชการ เพราะแม้บริษัทเอกชนเขาก็ไม่อยากรับคนมีคดี มีประวัติติดตัว ตนจึงอยากถามว่า วันนี้น้อง ๆ อายุ 20 ต้น ๆ ยังต้องใช้ชีวิตไปอีกยาวนาน พวกอีแอบทั้งหลายที่อยู่ข้างหลังที่ให้กำลังใจน้องอยู่ตอนนี้ เมื่อถึงเวลาเขาจะมาหันกลับมาดูแลพวกน้อง ๆ หรือไม่
“ผู้ปกครองที่บ้านต้องใส่ใจบุตรหลาน อย่าปล่อยปะละเลยให้ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองบางกลุ่ม ที่ไม่ได้ประสงค์ดีกับเยาวชนของชาติ เคยลองย้อนคิดดูหรือไม่ว่า เหตุใด พวกเขาจึงไม่ออกมาเป็นผู้นำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเอง ในเมื่อมีแนวคิดตรงกัน และทำไมถึงปล่อยให้เยาวชนผู้ร่วมอุดมการณ์ถูกจับกุม และอยู่ในสถานการณ์อันตรายหลายต่อหลายครั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นผู้ปกครองต้องจับเข่าคุยกับลูก ๆ ของท่าน หากไม่ต้องการให้พวกเขาจบอนาคตของตัวเองในวัย 20 กว่าปี”
