จากที่วันนี้(29ต.ค.63) นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ชี้แจง อธิบายถึงเรื่องหลอกเด็กและเยาวชน ที่หลงเชื่อออกมาชุมนุมจาบจ้วงสถาบัน โดยไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง!?!
เรื่องหลอกเด็ก(1) เรื่องแรกคือเรื่อง”ภาษีกู” ที่พูดกันนักพูดกันหนา พูดกันในทุกม้อบว่ามีการใช้เงินงบประมาณจากภาษี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นจำนวนมากและตรวจสอบไม่ได้ ความจริงเป็นอย่างไรเล่า?
1 เงินงบประมาณแผ่นดิน ที่เป็นรายจ่ายสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์มีรายจ่ายรายการเดียว คืองบประมาณของสำนักพระราชวัง
2 สำนักพระราชวัง เป็นหน่วยราชการเช่นเดียวกับกระทรวง เป็นหน่วยงานสนับสนุนสนองงานของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นประมุขและจอมทัพไทย การจัดสรรงบประมาณ ให้แก่สำนักพระราชวังจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่ประเทศซึ่งมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขปฏิบัติเช่นเดียวกันทั่วโลก
ในการจัดทำงบประมาณ เป็นไปตามกฎหมายวิธีการงบประมาณเหมือนกับกระทรวงต่างๆ ต้องจัดเตรียมโดยสำนักงบประมาณ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และนำเข้าพิจารณาใน สภาผู้แทนราษฎรรวม 3 วาระ และพิจารณาในวุฒิสภาอีก 3 วาระ ซึ่งมีการตรวจสอบ มีการอภิปรายดังที่คุณธนาธร เป็นกรรมาธิการอยู่ในขณะนี้ พระมหากษัตริย์ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการทำงบประมาณ!!!
3 เมื่อรัฐสภาอนุมัติงบประมาณและประกาศใช้แล้ว การใช้งบประมาณอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เช่นเดียวกับการกำกับดูแลการใช้เงินงบประมาณของส่วนราชการทั้งหลาย
4 การใช้จ่ายเงินของสำนักพระราชวังก็ต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตามระเบียบราชการปกติไม่มีข้อยกเว้น และถ้ามีกรณีใดไม่ถูกต้องผู้ตรวจการแผ่นดินก็สามารถตรวจสอบได้อีกทางหนึ่งด้วย
5 โครงการพระราชดำริต่างๆเป็นโครงการในราชการ เพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทย เป็นโครงงานอยู่ในสำนักพระราชวัง จึงมีการจัดสรรงบประมาณ สนับสนุนโครงการพระราชดำริต่างๆ และพึงทราบด้วยว่าพระมหากษัตริย์ และพระบรมราชวงศ์ มีแต่พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์อุดหนุนโครงการพระราชดำริต่างๆ มานับสิบๆปีแล้ว
ดังนั้น การกล่าวหาว่า มีการใช้เงินภาษีโดยไม่มีการตรวจสอบหรือตรวจสอบไม่ได้ จึงเป็นเรื่องหลอกเด็ก และเด็กต้องไม่ให้เขาหลอกอีกต่อไป!!! #เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน
เรื่องหลอกเด็ก(2) หลอกเด็กกันเป็นล่ำเป็นสันว่า พระมหากษัตริย์ร่ำรวยมาก มีที่ราชพัสดุอยู่ทั่วประเทศ ในขณะที่ประชาชนยากจนไม่มีที่ดินทำกิน!!! เรื่องที่ดินที่หลอกเด็กดังกล่าวนี้คือที่”ราชพัสดุ”ความจริงเป็นอย่างไรกันเล่า?
1 ที่ราชพัสดุไม่ใช่ที่ดินของพระมหากษัตริย์ (royal property)แต่เป็นที่ดินของรัฐ(nation property) โดยมีหน่วยงานที่ถือกรรมสิทธิ์และดูแลรับผิดชอบคือกรมธนารักษ์ ในสังกัดกระทรวงการคลัง
2 ที่ดินของรัฐทั้งหมด ในความดูแลของกรมธนารักษ์นั้น เรียกกันโดยนิยมว่าที่ราชพัสดุ จึงอาจเข้าใจผิดในความหมายว่า เป็นพัสดุของพระราชาหรือเป็นที่ดินของพระมหากษัตริย์ แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะเป็นที่ดินหลวงหรือที่ดินของรัฐทั้งหมด หรือเป็นพัสดุของทางราชการนั่นเอง พระมหากษัตริย์ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นเจ้าของที่ดินส่วนนี้
3 เมื่อที่ดินราชพัสดุทั้งหมดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ซึ่งทหารใช้ ที่ส่วนราชการใช้ หรือที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ด้วยประการอื่นๆโดยกระทรวงการคลัง ที่ดินดังกล่าวนี้จึงไม่ต้องเสียภาษีที่ดิน เหตุที่ไม่ต้องเสียก็เพราะเป็นที่ดินของรัฐนั่นเอง
4 ก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ถือว่าที่ดินทั้งประเทศเป็นของพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อพระเจ้าแผ่นดินแต่ละพระองค์ขึ้นครองราชย์จะมีพระบรมราชโองการยืนยันในความเป็นเจ้าของที่ดินทั่วประเทศ แต่ทรงอนุญาตให้ราษฎรครอบครองทำประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่สืบต่อมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย จะยกเว้นก็เฉพาะ ที่ดินในเขตพัทธสีมา ที่พระมหากษัตริย์จะทรงอุทิศถวายพระพุทธเจ้าให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา****
แม้ในโฉนดที่ดินรุ่นแรกๆ ที่รัชกาลที่ 5 มีพระบรมราชโองการให้ออกโฉนดที่ดินก็ยังมีข้อความระบุเช่นเดียวกันนี้ สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้แยกที่ดินส่วนที่เป็นของรัฐออกจากของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ดินส่วนที่เป็นของรัฐนี้เรียกว่าที่ราชพัสดุ เป็นการแยกทรัพย์สินออกเป็นส่วนต่างหากจากส่วนของพระมหากษัตริย์ พร้อมๆกับการแยกรายได้รายจ่ายแผ่นดิน และการเงินของแผ่นดินไปตั้งเป็น”หอรัษฎากรพิพัฒน์” ซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็นกระทรวงการคลังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้
นับเป็นครั้งแรก ที่มีการแยกรายได้รายจ่ายทรัพย์สินของแผ่นดินหรือของรัฐออกจากส่วนของพระมหากษัตริย์ ซึ่งสะท้อนว่ารัชกาลที่ 5 มีแนวพระราชประสงค์ ที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่ก่อนแล้ว****
ปัจจุบันกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการครอบครองดูแลที่ราชพัสดุทั้งประเทศ ขบวนการหลอกเด็กเอาเรื่องนี้ไปหลอกกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่อไปใครเอาเรื่องนี้มาหลอกช่วยตอกหน้าให้ที
#เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน *** จะเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ การอุทิศที่ดินถวายพระพุทธเจ้า ในสมัยรัชกาลที่ 4 ให้ฟังต่างหาก
ที่มา : เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol