สตช.สรุปจับม็อบแล้ว78 ให้ประกัน 70 อานนท์ รุ้ง เพนกวิน ยังนอนคุกยาว

3229

จากที่วันนี้ (23 ต.ค.63) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในช่วงวันที่ 15 – 22 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น

ทั้งนี้หลักสำคัญในการยกเลิก คือ ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้านแรงแต่ในข้อกฎหมาย หรือ ผู้กระทำความผิดจะยังถูกดำเนินคดีความ ตามวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งรวมถึงเยาวชนผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วย อีกทั้งผู้เสียหายยังสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ตามอายุความของคดี

ส่วนผลการแจ้งความดำเนินคดีและจับผู้ต้องหาในช่วงเหตุการณ์ชุมนุม จากวันที่ 13 – 23 ต.ค.63 ทางด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า มีผู้ถูกแจ้งความดำเนินคดีไป 81 คดี จำนวนผู้ต้องหา 78 คน ซึ่งมี 3 คนที่ถูกดำเนินคดีซ้ำ

“ส่วนความผิดที่แจ้งความผู้ต้องหา 1.มีความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวน 46 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 4 คน ถูกดำเนินคดีด้วย 2.ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวาย (ม.215) จำนวน 21 คน, 3.ข้อหาประทุษร้ายต่อองค์รัชทายาทและพระราชินี (ม.110) จำนวน 3 คน 4.ความผิดฐานยุยงปลุกปั่น (ม.116) จำนวน 10 คน และ 5.ความผิดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานอีก 1 คน

ในจำนวนผู้ต้องหาเหล่านี้พนักงานสอบสวนส่งตัวผัดฟ้องฝากขังไปแล้ว โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว 70 คน มี 8 คน ที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ แยกเป็นเรือนจำกลางเชียงใหม่ จำนวน 1 คน คือนายอานนท์ นำภา และ อีก 7 คน ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดเป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม อาทิ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ยืนยันกรณีดำเนินคดีกับเยาวชน เป็นการดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย แต่การพิจารณาความผิด บทลงโทษ จะเป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.เด็กเเละเยาวชน ซึ่งเยาวชนผู้ถูกดำเนินคดีจะถูกพิจารณาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง