สื่อนอกแฉทรัมป์!?! จ่ายภาษีจีน 200,000 ดอลลาร์ใน 3 ปีจาก 5 บริษัทอสังหาฯ ขณะที่สหรัฐ 750 ดอลลาร์ต่อปี

2178

นิวยอร์คไทมส์และเดอะการ์เดียน แฉทรัมป์ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีน 5 บริษัท ตรวจพบจ่ายภาษีเกือบ200,000 ดอลลาร์สหรัฐให้จีน มากกว่าจ่ายให้สหรัฐ 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีในปี 2016,2017 สื่อมองว่า เป็นความทับซ้อนทางผลประโยชน์ที่ย้อนแย้งกับบทบาทต่อต้านจีนอย่างสุดขั้วของปธน.ทรัมป์ ทนายความบริษัททรัมป์แจงว่า เป็นการทำธุรกรรมปกติอย่างเปิดเผยไม่มีความผิดปกติทั้งด้านการเงินการธนาคารแต่อย่างใด ภายใต้การนำของทรัมป์ 4 ปีกว่า เกียรติภูมิของสหรัฐอเมริกาตกต่ำลงและคาดหวังว่า หลังเลือกตั้งคนอเมริกันจะเลือกผู้นำได้ถูกต้อง และฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของระบอบประชาธิปไตยเสรีให้กลับมาพร้อมแก้ปัญหาทุกอย่างลุล่วงได้เป็นอย่างดี

บทความฉบับนี้สะท้อนมุมมองสื่อตะวันตก ที่ยังคงให้ค่าความสำคัญที่สุดกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่าเป็นมาตรการวิเศษของระบอบประชาธิปไตยแบบทุนนิยมเสรี ที่จะแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่ระดมเข้าใส่ประเทศอเมริกาและคนอเมริกันได้  แต่ความเป็นจริงอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะยุคของปธน.ทรัมป์สะท้อนความจริงหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ในสังคมอเมริกันผุดจากใต้พรมให้โลกได้เห็น ยามที่ทุกคนบนโลกนี้เผชิญภัยไวรัสร้าย  ซึ่งไม่เหมือนกับภาพยนต์ฮอลลิวู๊ดที่ อเมริกาเป็นพระเอกเสมอและแก้ปัญหาเลวร้ายทุกอย่างในโลกนี้ได้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น (American Hero)

ทรัมป์จ่ายภาษีให้จีนมากกว่าประเทศตัวเอง
นสพ.นิวยอร์คไทมส์-สหรัฐ และเดอะการ์เดียน-อังกฤษ แฉหลักฐานการจ่ายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากสมุดรายงานของบริษัทบริษัทในประเทศจีน  เอกสารแสดงตัวเลขทรัมป์ชำระภาษีไป 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่ถูกแฉว่าจ่ายภาษีปีละแค่ 750 ดอลลาร์สหรัฐ

รายงานดังกล่าวย้อนแย้งกับท่าทีที่ปธน.ทรัมป์แสดงออกว่าต้านปักกิ่งอย่างหนัก เอกสารรายงานการชำระภาษีของบริษัทในจีนที่อยู่ภายใต้ บริษัทบริหารจัดการโรงแรมนานาชาติของทรัมป์ บริษัทจ่ายภาษีไป 188,561 ดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2013-2015  ตามสัญญาสิทธิการลงทุน

ก่อนหน้านี้นิตยสารไทมส์แสดงว่า เขาจ่ายภาษีแค่ 750 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2016,2017 แก่สหรัฐอเมริกา รายงานการเงินแสดงให้เห็นว่า ปธน.ทรัมป์ลงทุนอย่างน้อย 192,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 5 บริษัทซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน บริษัทเหล่านั้นอ้างว่า มีค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ 97,400 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2018 ตามเอกสารที่ไทมส์รายงาน

ผลประโยชน์ทับซ้อน-แค่เกมการเมืองเลือกตั้ง 
ทรัมป์ประกาศแผนรณรงค์เลือกตั้งว่า ตนนั้นสามารถยืนหยัดคัดค้านจีนในประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง-อุยกูร์ และการปกป้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง และดูแลเยียวยาปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ ความขัดแย้งจีนและสหรัฐทำให้จีนตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี
และเคลมว่า โจ ไบเดนอ่อนหัดต่อประเทศจีน และกล่าวหาว่าครอบครัวของไบเดน ขายอเมริกาให้จีน

ทีมหาเสียงทรัมป์ เผยแพร่ข้อมูล บุตรชายของไบเดน “ลงนามในข้อตกลงนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ”กับธนาคารจีนซึ่งเป็นของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งไม่ได่แสดงหลักฐานแต่อย่างใด

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทรัมป์ มีอาคารสำนักงานในกวางโจว ภาคใต้ของจีนซึ่งไม่ค่อยรุ่งเท่าใดนัก สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานในปี2016 ว่า โรงแรมทรัมป์เจรจากับบริษัทการไฟฟ้าของรัฐบาลจีน -สเตทกริด คอปอเรชั่นแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสร้างภาพพจน์และการบริหารงานในปักกิ่ง ซึ่งในช่วงนั้นการไฟฟ้าของจีนกำลังถูกจับตามองจากรัฐบาลจีนว่ามีการคอรัปชั่นอย่างอื้อฉาว

อลัน การ์เทน,ทนายความของบริษัทในเครือของทรัมป์แจงว่า “การเปิดบัญชีธุรกิจในธนาคารประเทศจีน เป็นการทำธุรกรรมปกติเพราะธนาคารจีนมีสาขาในสหรัฐอเมริกาด้วย เพื่อจะได้เสียภาษีตามกฎหมายของประเทศที่ทำธุรกิจ” “ไม่มีข้อตกลงการร้า การเคลื่อนย้ายเงินทุน หรือธุรกิจอื่นๆมาตั้งแต่ปี 2015”

4 ปีกว่า ภายใต้รัฐบาลแบบ “โดนัล ทรัมป”
ข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ คือ สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้าการตัดสินใจเลือก ทางเลือกสำคัญในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ คนอเมริกันจะเลือกใครนำแก้ปัญหาต่อไป  ผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลสะท้อนกับระบอบประชาธิปไตย ความก้าวหน้าและความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวของผองชนรุ่นต่างๆในอเมริกา เหนือแผ่นน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก ความสัมพันธ์ของมหาอำนาจ และปัญหาเร่งด่วนของภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง จะได้รับการสร้างสมดุลแก้ปัญหา การเกิด, การดูแลสุขภาพ-การสาธารณสุข, ความเท่าเทียมทางเพศ และความยุติธรรมในสหรัฐกำลังอยู่ในความเสี่ยง

ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลกระทบกับชีวิตครอบครัวอเมริกัน คนสูงวัย คนหนุ่มสาวไม่เว้น ทั้งผู้หญิง -ผู้ชายคนกลุ่มน้อย คนกลุ่มใหญ่ทั้งคนรวย คนรายได้น้อย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง มีแต่คนอเมริกันเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยตัวของตัวเอง