จากเมื่อคืน(21 ต.ค.63) ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. นำหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ 160 /2563 ลงวันที่ 17 ต.ค.63 ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกความตาม มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าจับกุม น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์
ทั้งนี้ มายด์ เป็น นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีมหานคร แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย โดนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวที่ร้าน Let’s Say Cafe ซอยราชวิถี 3 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จากกรณีที่เจ้าตัวไปร่วมการปราศรัยที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบปากคำที่ บก.ตชด.ภาค 1
ขณะที่ มายด์ น.ส.ภัสราวลี กล่าวก่อนถูกนำตัวขึ้นรถว่า ตนกำลังใจดี เข้าใจดีว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นเกมของรัฐบาลที่ต้องการตัดทอนกำลัง และไม่ได้ทำให้ตนกลัว การจับกุมครั้งนี้ไม่ชอบธรรม เพราะบุกจับยามวิกาล การจับกุมลักษณะนี้จะต้องมีการแก้ไข ไม่ควรมีใครมาถูกจับกุมแบบนี้อีก
สำหรับ น.ส.ภัสราวลี เคยถูกพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหา จากการจัดกิจกรรมชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมผู้ต้องหาอื่นรวม 6 คน โดยทั้งหมดไปรายงานตัวเมื่อวันที่ 1 ก.ย. และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ต่อมา นางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความลงบนทวีตเตอร์ ถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า
บุกจับมายด์ ในยามวิกาล ออกเป็นหมายจับ ไม่ออกหมายเรียก ทำไมไม่ใช้มาตรฐานเดียวกับช่อ คือออกหมายเรียกก่อน ทั้งที่โดนข้อหาเดียวกันคือฝ่าฝืนพ.ร.ก.
ไหนบอกถอยคนละก้าว ไหนบอกเจรจากันในสภา คำพูดนายกรัฐมนตรี เดี๋ยวนี้เป็นเพียงลมปากเท่านั้น แบบนี้ไม่เรียกถอยคนละก้าวค่ะ เรียกก้าวล่วงประชาชน
ก่อนหน้าคือเมื่อวันที่17 ต.ค. ที่ สน.ปทุมวัน นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว แกนนำกลุ่มไทยภักดี พร้อมทนายความเข้าพบ ร.ต.อ.สุริศักดิ์ ช่วงทิพย์รอง สว.สอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ วาณิช ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคณะราษฎร เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา บริเวณแยกปทุมวันพร้อมนำคลิปไลฟ์สดทั้ง 2 วัน มามอบให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
โดยนายบุญเกื้อ กล่าวว่า กลุ่มไทยภักดีมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ ช่อ พรรณิการ์ ในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบพฤติกรรมมีความผิดชัดเจน โดยเฉพาะการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กคณะก้าวหน้า ในลักษณะยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคณะราษฎร ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้ง 2 วัน
ที่มา : ทวิตเตอร์ Pannika Wanich@Pannika_FWP