นายกฯปลุกคนไทย”อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี“ย้ำเป็นหน้าที่ทุกคน ต้องร่วมกำจัดผู้มีเจตนาร้ายต่อประเทศ ไฟเขียวเชือดสื่อบิดเบือนข่าว ยุยง ปลุกปั่น กระทบความมั่นคงบ้านเมือง ลั่นไม่ได้ละเมิดสิทธิ เผยทบทวนคำสั่ง พิจารณาเป็นกรณี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนการแถลงได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลน.)ที่ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดและเครื่องเสียง ทำการเปิดเพลง”อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี”เพียงสั้นๆ ซึ่งนายกฯกล่าวว่า ฟังเพลงแล้วรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างไหม เราลูกหลานไทย คนไทย อยู่กันอย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน หน้าที่ของรัฐบาล แต่ตนก็ไปบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของพวกเราทุกคน
“พูดผ่านสื่อมวลชนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลวันนี้ และส่งผ่านไปยังสื่อออนไลน์ต่างๆ สื่อทุกประเภท เรื่องสำคัญเรื่องที่มีเอกสารคำสั่งจากผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เรื่องการตรวจสอบและระงับการออกอากาศรายการของสื่อ รวมถึงสื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาสาระกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของประเทศเมื่อวันก่อน
ผมขอพูดอีกครั้งว่าสื่อมวลชนนั้น เป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทย สื่อคือพลังที่จะสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศได้ บทบาทของสื่อต้องทำหน้าที่อย่างมีสิทธิเสรีภาพ และมีความเป็นกลาง สร้างคุณประโยชน์กับประเทศของเรามากมายมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ด้วยการเฝ้าระวังตรวจสอบสิ่งต่างๆในสังคม การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ
วันนี้ผมได้สั่งการมอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจออกคำสั่งเพื่อดำเนินการดังกล่าว โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่างๆ โดยคำนึงสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นบางกรณีที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จบิดเบือน ยุยงปลุกปั่น ล้ำเส้น ก้าวล่วง ละเมิดสิทธิ ของผู้อื่นตามกฎหมายมาตลอด ที่มีความชัดเจน ซึ่งวันนี้จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินการเฉพาะเป็นเรื่องๆไป โดยขอให้ครั้งนี้เป็นการทำความเข้าใจ ส่วนบางอันที่จำเป็นต้องปิดตามคำสั่งก็ต้องปิด และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ได้ไปละเมิดใครทั้งสิ้น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า หน้าที่ของตนและพวกเราทุกคนต้องช่วยกันป้องกัน กำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้าย ความพยายามยุยงปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยก สับสนอลหม่านภายในประเทศ นั้นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับไม่ให้เกิดขึ้น ต้องขอความร่วมมือจากพวกเราทุกคน จากประชาชนด้วย ตนไม่ต้องการละเมิดสิทธิของใคร แต่ท่านจะต้องระมัดระวังการละเมิดสิทธิผู้อื่นด้วย