จากใจ คนที่เคยได้รับโอกาสจากพระองค์ท่าน เล่าทั้งน้ำตา ครั้งฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทรงช่วยลูกชายป่วยหนัก ทรงเป็นที่พึ่งจนถึงวาระสุดท้าย
จากกรณีที่มีการชุมนุม ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มคณะราษฎร จนยืดเยื้อมาถึงวันนี้ (20 ตุลาคม 2563) ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองมาก สำหรับการเคลื่อนไหวของประชาชน เยาวชนและนักเรียน ที่มีการพูดถึงการทำงานและบริหารประเทศของรัฐบาล จนโยงไปสู่การโจมตีสถาบัน ที่กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่า ต้องการเพียงปฏิรูปสถาบันเท่านั้น แต่การแสดงออกและเนื้อหาที่ปราศรัย ดูเหมือนเป็นการพูดใส่ร้ายป้ายสีสถาบัน จนทำให้กลุ่มผู้รักสถาบันเกิดความไม่พอใจและออกมาปกป้อง
ล่าสุดมีคนที่เคยได้รับโอกาสจากพระองค์ท่าน ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของพระเมตตาของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เมื่อครั้งที่ลูกชายป่วยหนัก พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือ และเป็นที่พึ่งจนวาระสุดท้าย ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการชี้ให้เห็นว่า สถาบันอยู่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง โดยเรื่องราวของคุณแม่ท่านนี้ ได้เล่าว่า
จากใจ ของคนที่เคยได้รับโอกาสจากพระองค์ท่าน
เกือบ 4 ปีที่แล้ว ลูกชายเราป่วยหนัก หมดค่ารักษา ไปเกือบ 10 ล้านบาท และในเวลานั้น เราก็ป่วยหนักเช่นกัน ฟ้าบันดาลให้เราได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่าน หลังจากที่เลื่อนคิวมาครั้งหนึ่งแล้ว มาทราบทีหลังว่า พระองค์ลื่นล้ม พอพระองค์ ดีขึ้น ท่านห่วงแต่ประชาชน ท่านออกหน่วย ของ พอ.สว.
แพทย์ได้กราบทูลพระองค์เรื่องลูกชายเรา ที่ตอนนั้นผ่าตัดสมองด้วยโรค “เนื้องอกที่ผนังของโพรงสมอง” ตอนนั้น ผ่าไปได้ประมาณ 15 ครั้งแล้ว และแพทย์ทูลรายงานพระองค์ต่อว่า แม่ก็ป่วยหนัก มีก้อนเนื้อที่เต้านม หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เข่าเสื่อม สำคัญสุด คือ มีกันแค่ 2 คนแม่ลูกที่ต้องดูแลกัน
พระสุรเสียง ยังก้องอยู่ในหัวใจตลอดเลย เมื่อพระองค์ ทรงกล่าวกับเราว่า ” แม่ไม่ต้องกลัว จากนี้ไป หนูจะช่วยดูแลน้องเอง และแม่ป่วย ต้องดูแลแม่ด้วย แม่ไม่ต้องกลัว”
น้ำตาล้นเต็มอยู่เต็มหัวใจ กล่าวออกไป โดยไม่รู้ตัวว่า กราบขอบพระทัยพระองค์มากๆๆๆ
วันนั้น เรารอพระองค์ท่านนานมาก เรานั่งบนเก้าอี้ เวลาผ่านไปนานเหมือนกันกว่าพระองค์จะมา แต่พอพระองค์มา เราน้ำตาใหลทันทีว่า เพราะเหตุใด พระองค์ถึงมาช้า พระองค์เดินแทบไม่ไหวต้องมีคนคอยประคองซ้าย ขวา และมีช่วงหนึ่งที่พระองค์เดิน แล้ว ทรุดตัว ดีที่คนประคองๆท่านได้ทัน เรานี้ตกใจมากๆเลย
พระองค์ ทรงค่อยๆ เดิน พอมาถึง คนป่วยที่รอเฝ้าพระองค์ พวกเรานั่งบนเก้าอี้ แต่พระองค์กลับคุกเข่าอยู่กับพื้น ท่านไม่เคยนึกถึงพระองค์ ท่านนึกอย่างเดียวว่า คนป่วยต้องสะดวกสบายที่สุด
จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ลูกชายเราชีวิตไปแล้ว พระองค์ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกบาททุกสตางค์ และยังทรงเมตตา ให้การดูแลค่าใช้จ่ายรายเดือนทุกเดือนจนน้องเสีย รวมทั้งสิ้นน้องผ่าตัดสมองไปถึง 18 ครั้ง
การรักษาการน้องสิ้นสุดลง แต่การดูแล ของพระองค์ที่เมตตาให้เรายังมีอยู่ เราเข้ารับการรักษาต่อที่ม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยโรคต่างๆที่รุมเร้าอยู่ในปัจจุบัน
วันนี้ขณะที่เราเขียนโพสต์นี้ขึ้นมา เรากำลังมาหาหมอ เพื่อจะนัดเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง
ถามว่า ทั้งหมดนี้คือความดีหาสุดประมาณที่พระองค์ทรงมีกับประชาชนตัวเล็กๆอย่างเรา เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าไม่มีพระองค์ เราจะเป็นอย่างไร เราตัวคนเดียว ไม่มีเงิน เราจะรักษาตัวอย่างไร
ได้โปรดเถิด จะไล่ใคร ด่าใคร ด่าไปเถิด เพราะนั่นคือ เสรีในประเทศเราที่พึงมี แต่ไม่ใช่พระองค์ หลายคนเคยรู้มั้ยในสิ่งที่พระองค์ทรงตรากตร่ำเพื่อคนไทย หรือมัวแต่จ้องมองหา แต่เรื่องที่พระองค์ไม่ได้ผิดเลย
ถ้าวันหนึ่ง มีคนได้ยินคนอื่นพูดมาก ว่าคุณไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมาต่อว่าคุณ ไล่คุณออกจากบ้านของคุณเอง คุณจะมีความรู้สึกอย่างไร
แค่ได้ยินมา ไม่เท่ากับเห็นกับตาตนเองหรอก
ขอความเป็นทำให้พระองค์ด้วย ไม่รักไม่ว่า แต่อย่ามาทำร้ายพระองค์
ขอบคุณข้อมูลจาก : Facebook ครูแอม จันทรัตน์