ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามระงับโทษให้โรเจอร์ สโตน อดีตที่ปรึกษาและคนสนิท ไม่ต้องถูกจำคุก 40 เดือน ที่ปรึกษาพิเศษอดีตเอฟบีไอ ออกมาประนามผู้นำสหรัฐที่ใช้อำนาจพิเศษอุ้มเพื่อน และออกมาแฉรายงานเรื่องการสืบสวนกรณี รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ยืนยันสโตนที่ปรึกษาปธน.ทรัมป์ทำผิดกฎหมายจริง ทำภาพพจน์ปธน.ทรัมป์เสียหายหนัก
โรเบิร์ต มูลเลอร์ อดีตที่ปรึกษาโครงการ ประนามปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใช้อำนาจพิเศษเปลี่ยนคำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯ อุ้มเพื่อนรักคนสนิทให้ไม่ต้องจำคุก 40 เดิอน
นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI มายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 – 2013 ซึ่งเป็นสมัยก่อนหน้านายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI ที่ถูกปธน. ทรัมป์ ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อต้นปีฐาน “ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ”
บทความแจงความคิดเห็นต่อกรณีปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจพิเศษของประธานาธิบดีปกป้องทีมงานของตน ที่เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาก่อกระแสอื้อฉาวให้ปธน.ทรัมป์อย่างร้อนแรง มุลเลอร์ตั้งประเด็นบทความว่า “โรเจอร์ สโตนถูกศาลตัดสินลงโทษฐานกระทำความผิดและนั่นเป็นความถูกต้องมิใช่หรือ”
มูลเลอร์ระบุในบทความว่า “งานให้คำปรึกษาพิเศษของคณะทำงาน-มีรายงานรายละเอียดของเรื่องราว-ข้อกล่าวหา-การสารภาพ-บทลงโทษ ทั้งหมดได้สำแดงชัดอยู่ในรายงานนั้นครบถ้วน” มูลเลอร์แสดงความเห็นในรายงาน
“แต่ผมรู้สึกว่า การกล่าวหาว่าการทำงานอย่างหนักและทุ่มเทอย่างจริงจังของทีมงานเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย เป็นการกลั่นแกล้งไม่ยุติธรรม และโรเจอร์ สโตนเป็นเพียงเหยื่อของสำนักงาน” มันไม่ใช่
“สโตนถูกดำเนินคดีและได้รับการตัดสินลงโทษเพราะเขากระทำความผิดอาญา เขาควรถูกลงโทษ มันเป็นความถูกต้องมิใช่หรือ”
โรเจอร์ สโตนอดีตที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาว และปธน.ทรัมป์ ถูกศาลสูงสุดสหรัฐฯตัดสินลงโทษและจับกุมที่บ้านพัก ข้อกล่าวหาคือให้การเท็จต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ บิดเบืยนข้อเท็จจริงซึ่งเป็นคดีอาญา
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ การสอบสวนบ่งชี้ว่า สโตนรู้เห็น การที่หน่วยความมั่นคงของรัสเซียมีข้อมูลความเคลื่อนไหวของฮิลลารี คลินตันที่ทำให้ต้องแพ้ปธน.ทรัมป์ในการเลือกตี้งปี 2019 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพรรคเดโมแครตและคลินตันที่มั่นใจมากกว่าจะได้รับชัยชนะ จึงผลักดันให้สภาคองเกรสสืบสวนกรณีนี้ ซึ่งกินเวลาถึง 2 ปี จึงได้ข้อสรุป แตไม่ใช่ข้อสรุปว่า ปธน.ทรัมป์สมคบกับรัฐบาลรัสเซียรู้เห็นการแฮ็กข้อมูลของคลินดัน แต่มุ่งเป้าลงโทษ การให้การของสโตนว่าบิดเบือน ให้การเท็จต่อสภาคองเกรส ปธน.ทรัมป์จึงอ้างว่าเป็นคดีการเมืองที่ฝ่ายตรงข้ามใช้ดิสเครดิตตน
อย่างไรก็ตาม ภาพพจน์อดีตที่ปรึกษา โรเจอร์ สโตนซึ่งเป็นผุ้ใกล้ชิดและทำงานให้ปธน.ทรัมป์มานาน มีภาพพจน์ไม่ดีนัก ยิ่งมาเสียหายเรื่องถูกตัดสินจำคุกและปธน.ทรัมป์ออกโรงป้องใช้อำนาจพิเศษ ยิ่งทำให้เสียภาพพจน์อย่างหนักไปด้วยกัน ฝั่งเดโมแครต จึงขยี้ภาพพจน์ทรัมป์ต่อเนื่องด้วยกรณีนี้ไปอีกนาน
……………………………………….
Cr:vox, theguardian